TLD-003-5466
อุษา 2 (ชื่อตัวละคร)
อุษาเป็นตัวละครในบทละครเรื่องอุณรุท เป็นธิดาบุญธรรมของพระฤๅษีสุธาวาส* และต่อมาท้าวกรุงพาณ*แห่งกรุงรัตนา*ขอนางไปเป็นธิดาบุญธรรม นางเป็นมเหสีของพระอุณรุท*แห่งกรุงณรงกา*
เมื่อชาติก่อนนางอุษาคือนางสุจิตรา*มเหสีองค์หนึ่งของพระอินทร์* ท้าวกรุงพาณได้แปลงเป็นพระอินทร์และลอบจำมนตร์เปิดทวารวิมานไพชยนต์ของพระอินทร์จนสามารถเข้าไปในวิมานและร่วมสมนางสุจิตรา ทำให้นางเสียใจและแค้นใจ จึงลาพระอินทร์มาเกิดในโลกมนุษย์เพื่อแก้แค้น
นางสุจิตราจุติลงมาเกิดเป็นกุมารีในดอกบัวใกล้อาศรมของพระฤๅษีสุธาวาสในดินแดนของท้าวกรุงพาณ ฤๅษีสุธาวาสพบกุมารีจึงนำไปเลี้ยงไว้ ตั้งชื่อว่าอุษา ต่อมาท้าวกรุงพาณได้ขอนางอุษาจากพระฤๅษีสุธาวาสไปเลี้ยงเป็นธิดาบุญธรรมและให้เหล่าเทวดาเนรมิตปราสาทแก้วให้นางอยู่ พร้อมทั้งจัดพี่เลี้ยงทั้งห้าได้แก่ นางอรัญ* นางจันทวดี* นางเทพสุนทร* นางสุพรรณ* และนางศุภลักษณ์กรรฐา*คอยดูแล
วันหนึ่งพระอุณรุท*พาชายาศรีสุดา*ประพาสป่าพร้อมไพร่พล พระอินทร์ให้พระมาตลี*แปลงเป็นกวางทองไปล่อ นางศรีสุดาอยากได้และขอให้พระอุณรุทจับให้ กวางหนีออกทางด้านพระอุณรุท พระอุณรุทให้นางศรีสุดากลับเมืองณรงกา*ก่อน พระองค์ไล่ตามกวางไปจนถึงต้นไทร กวางหายไปในพุ่มไม้ พระอุณรุทได้เข้าพักที่ใต้ต้นไทรพร้อมไพร่พลที่ตามมาทัน และให้พี่เลี้ยงบวงสรวงพระไทรเทพารักษ์เพื่อขอความคุ้มครอง พระไทรพอใจคำบวงสรวงจึงสะกดนิทราบรรดาไพร่พล แล้วอุ้มพระอุณรุทไปสมนางอุษาที่เมืองรัตนาเพราะเห็นว่าทั้งสองงามเหมาะสมกัน พระไทรร่ายมนตร์ไม่ให้ทั้งสองเจรจากันได้ ครั้นใกล้รุ่งสางพระไทรอุ้มพระอุณรุทกลับไปไว้ใต้ต้นไทรดังเดิม เมื่อพระอุณรุทตื่นบรรทมไม่เห็นนางอุษา ก็ขอให้พี่เลี้ยงทั้งสี่ช่วยกันค้นหาแต่ไม่พบ พระอุณรุทจึงกลับเมืองณรงกา ไม่ยอมสรงเสวยเพราะทุกข์โศกถึงนางอุษา ท้าวไกรสุท*พยายามหาหมอมารักษาแต่ไม่ได้ผล
ฝ่ายนางอุษาตื่นขึ้น ถามหาพระอุณรุทกับพี่เลี้ยงทั้งห้า นางศุภลักษณ์อาสาเดินทางไปวาดรูปเหล่าเทวดาและกษัตริย์เพื่อให้นางอุษาชี้ตัวชายที่มาร่วมสมนาง นางศุภลักษณ์เดินทางไปวาดรูปถึง 3 ครั้ง และครั้งสุดท้ายก็ได้รูปพระอุณรุทมา นางอุษาขอให้นางศุภลักษณ์ไปพาพระอุณรุทมาหานางโดยให้แหวนและสไบทรงของนางไปเพื่อแสดงเป็นหลักฐานแก่พระอุณรุท พระอุณรุทจำแหวนและกลิ่นหอมจากสไบทรงของนางอุษาได้ จึงยอมให้นางศุภลักษณ์อุ้มไปครองรักกับนางอุษาที่เมืองรัตนา
ต่อมาทศมุข*โอรสท้าวกรุงพาณไปเยี่ยมนางอุษาที่ปราสาท พบพระอุณรุท ได้ต่อสู้กัน ทศมุขแพ้ นางอุษาขอชีวิตทศมุขไว้ ทศมุขไปทูลท้าวกรุงพาณ ท้าวกรุงพาณกริ้วยกทัพไปล้อมปราสาทนางอุษา และจะรบกับพระอุณรุท แต่กาลานุราช*เสนาบดีห้ามไว้และทูลแนะนำให้เชิญท้าวกำพลนาค*ซึ่งเป็นสหายของท้าวกรุงพาณมาช่วยจับพระอุณรุท ท้าวกำพลนาคแปลงเป็นใยลอยไปยังปราสาทนางอุษา ลอบเข้าไปรัดพระอุณรุทขณะหลับมาให้ท้าวกรุงพาณ ท้าวกรุงพาณให้กำพลนาครัดร่างพระอุณรุทติดกับยอดปราสาทเพื่อประจานและทรมานจนกว่าจะตาย แล้วป่าวประกาศให้ทวยเทพมาดู ทวยเทพไปทูลท้าวบรมจักรกฤษณ์*พระอัยกาของพระอุณรุท ท้าวบรมจักรกฤษณ์จึงทรงครุฑมาช่วยและมอบแหวนซึ่งเป็นเทพอาวุธให้พระอุณรุทสังหารศัตรู และพาพระอุณรุทไปอยู่กับนางอุษา เมื่อท้าวกรุงพาณรู้ว่าพระอุณรุทลอบมาอยู่กับนางอุษาอีกก็โกรธ ยกทัพมาล้อมปราสาทของนางอุษา พระอุณรุทพานางอุษาไปยังเขาอังชันและท้าท้าวกรุงพาณไปต่อสู้กันแต่ไม่สามารถสังหารท้าวกรุงพาณได้ พระอุณรุทจึงเสกพระขรรค์เป็นวิชาธร (วิทยาธร) จำนวน 1 โกฏิเข้ารบขัดตาทัพกับท้าวกรุงพาณไปก่อนแล้วพระอุณรุทพานางอุษาเหาะไปสรงน้ำในสระมุจลินท์ที่ป่าหิมพานต์* เสร็จแล้วกลับมารบต่อและเสี่ยงแหวนขว้างไปสังหารท้าวกรุงพาณได้สำเร็จ ก่อนตายท้าวกรุงพาณสำนึกได้ว่าพระอุณรุทคือนัดดาของท้าวบรมจักรกฤษณ์ซึ่งเป็นพระนารายณ์อวตาร จึงฝากพระอุณรุทให้ช่วยดูแลนางอุษาและทศมุขแล้วสั่งลานาง
นางอุษาคร่ำครวญจนสลบ ทวยเทพช่วยนางให้ฟื้น พระอุณรุทเผาศพท้าวกรุงพาณแล้วพานางอุษากลับเมืองณรงกา นางศรีสุดาหึงนางอุษาจนเกิดวิวาทกันแต่พระอุณรุทไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองปรองดองกัน ท้าวไกรสุทมอบราชสมบัติแก่พระอุณรุท อภิเษกนางอุษาเป็นมเหสีฝ่ายขวาและนางศรีสุดาเป็นมเหสีฝ่ายซ้าย
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory