TLD-003-0919
จันทะโครบ (ชื่อตัวละคร)
จันทะโครบเป็นตัวละครในนิทานเรื่องจันทะโครบ เป็นโอรสท้าวพรหมทัต*
เมื่อจันทะโครบมีชันษาได้ 12 ปี ท้าวพรหมทัตดำริจะให้จันทะโครบครองเมืองแทน แต่ให้ไปเรียนศิลปศาสตร์กับฤๅษีในป่าก่อนเพื่อจะได้มีความรู้ จันทะโครบเรียนวิชากับฤๅษีในป่าหิมพานต์จนสำเร็จ พระฤๅษีชุบศรกับพระขรรค์ให้เป็นอาวุธคู่กาย เมื่อจันทะโครบจะกลับเมือง พระฤๅษีเนรมิตผอบแก้วและเสกขนนกยูงใส่ไว้ ขนนกยูงกลายเป็นหญิงงามอยู่ในผอบ พระฤๅษีจารึกชื่อว่าโมรา*ที่ฝาผอบ มอบผอบให้จันทะโครบและสั่งว่าห้ามเปิดระหว่างทาง
จันทะโครบเดินป่าได้ 15 วัน ด้วยผลกรรมทำให้ลืมคำสั่งพระฤๅษีจึงเปิดผอบดู พบนางโมราซึ่งมีโฉมงดงาม จันทะโครบได้นางเป็นชายาและพานางเดินทางต่อไป จันทะโครบหลงรักนางมาก เมื่อนางเดินไม่ไหวก็อุ้ม เมื่อนางกระหายน้ำก็ใช้พระขรรค์เชือดต้นขารองโลหิตให้นางดื่ม
วันหนึ่ง จันทะโครบพบโจรป่ากับบริวาร 500 คน โจรปรารถนานางโมราจึงเกิดต่อสู้กัน จันทะโครบแผลงศรฆ่าบริวารโจรตายหมดเหลือแต่นายโจรซึ่งยุดคันศรของจันทะโครบไว้ จันทะโครบบอกนางโมราให้ส่งพระขรรค์ให้ นางโมราลังเลเพราะมีใจรักนายโจรด้วยจึงวางพระขรรค์ไว้ตรงกลาง ข้างปลายซึ่งคมอยู่ทางจันทะโครบ ด้ามอยู่ทางนายโจร จันทะโครบจึงถูกฟันสิ้นชีวิตฝ่ายนายโจรเมื่อได้นางโมราเป็นภรรยาแล้วก็คิดว่านางอาจทรยศตนได้เหมือนกันก็หนีไป
พระอินทร์แปลงเป็นเหยี่ยวมาลองใจนางโมราแล้วสาปนางให้เป็นชะนีและชุบชีวิตจันทะโครบ พระอินทร์แนะให้จันทะโครบไปทางทิศเหนือจะพบนางผู้หนึ่งอยู่ในถ้ำ นางชื่อมุจลินท์*เป็นธิดาของพญานาคกับนางกินรี ปากถ้ำมีหุ่นพยนต์รูปอสูรสูงตระหง่านเฝ้าอยู่ จันทะโครบเป็นคู่สร้างของนางดังนั้นจะสามารถสังหารหุ่นพยนต์ได้ จันทะโครบเดินทางเป็นเวลา 7 วันถึงป่าใหญ่แดนพญานาค ต่อสู้กับทหารของพญานาคที่เฝ้าด่านได้แล้วก็เดินทางต่อไปถึงเขายุคุนธร*ที่นางมุจลินท์อยู่ หลังจากสังหารอสูรหุ่นพยนต์แล้วจันทะโครบเข้าไปในถ้ำ พบนางมุจลินท์ซึ่งมีรูปโฉมงดงาม จันทะโครบได้นางเป็นชายาและอยู่ในถ้ำนั้นจนนางมีครรภ์ได้ 3 เดือน จันทะโครบเกรงว่าเมื่อนางประสูติกุมารจะลำบากจึงพานางกลับเมือง
ระหว่างทางผ่านป่าซึ่งมีนางยักษ์ม่ายตนหนึ่งอาศัยอยู่ สามีคือยักษ์จักรโกญจ์*สิ้นชีวิตนานแล้ว นางยักษ์เห็นจันทะโครบนอนหลับอยู่กับนางมุจลินท์ก็ร่ายอาคมโปรยยาสะกด นางยักษ์หลงรักจันทะโครบจึงทุบตีนางมุจลินท์จนสลบและทิ้งลงน้ำแล้วแปลงกายเป็นนางมุจลินท์แทน เมื่อจันทะโครบฟื้นจากมนตร์สะกดก็นึกสงสัย แต่เห็นรูปร่างและเครื่องทรงเหมือนนางมุจลินท์ก็คิดว่าเป็นนางจริงแต่ที่ผิวกระด้างและกลิ่นหอมหายไปเพราะลำบากตรากตรำ นกสาลิกาคู่หนึ่งเห็นเหตุการณ์ที่นางมุจลินท์ถูกทำร้ายก็พูดคุยกัน นางยักษ์แปลงร้องตวาดนก ทำให้จันทะโครบสงสัยอีกเพราะนางมุจลินท์ไม่เคยส่งเสียงดัง นางยักษ์แปลงกลบเกลื่อนว่าเป็นเพราะนางเจ็บครรภ์ จันทะโครบเห็นกิริยาอาการของชายาผิดแปลกไปก็เริ่มระแวง
เมื่อกลับถึงเมือง จันทะโครบเข้าเฝ้าพระบิดามารดาและทูลเรื่องราวทั้งหมด ท้าวพรหมทัตให้โหรตรวจดูดวงชะตาโอรสและชายา โหรทูลว่าชะตาร้ายจึงพลัดพรากจากคู่ครอง และให้ดูนัยน์ตาชายาของจันทะโครบจะเห็นว่าไม่มีแววตาเหมือนมนุษย์ นางยักษ์เห็นว่ามีคนล่วงรู้ก็กลายร่างเป็นยักษ์ตามเดิมเข้าต่อสู้กับจันทะโครบแต่สู้ไม่ได้จึงร่ายมนตร์กำบังกายหนีไป
จันทะโครบลาพระบิดามารดาออกป่าพร้อมพี่เลี้ยงทั้งสี่เพื่อตามหานางมุจลินท์ จันทะโครบตามหานางจนถึงอาศรมพระฤๅษีที่เป็นอาจารย์ พระฤๅษีเข้าฌานดูแล้วบอกว่านางมุจลินท์และโอรสยังมีชีวิตอยู่ พญานาคพาไปดูแล ให้ไปทางทิศอาคเนย์จะได้พบกัน จันทะโครบพร้อมพี่เลี้ยงเดินทางไปจนถึงฝั่งมหาสมุทรก็เข้าพักที่ใต้ต้นไทรแล้วหลับไป เมื่อตื่นขึ้นได้ยินเสียงดังสนั่นในป่าจึงให้พี่เลี้ยงไปดู พี่เลี้ยงกลับมาทูลว่าเห็นกุมารผู้หนึ่งพร้อมกับบริวารเด็กๆ และยักษ์ตนหนึ่งเล่นกันอยู่ จันทะโครบไปไต่ถามจึงรู้ว่าเป็นโอรสของตนชื่อจันทะวงศ์*
ครั้งแรกจันทะวงศ์ไม่เชื่อว่าเป็นบิดาจึงแผลงศรหมายจะสังหาร จันทะโครบอธิษฐานว่าถ้าเป็นโอรสขออย่าให้ตนต้องอาวุธ ศรของจันทะวงศ์กลายเป็นข้าวตอกดอกไม้และธูปเทียนบูชาถึง 3 ครั้ง
ครั้นจันทะโครบแผลงศรไปก็กลายเป็นขนมนานาชนิด เมื่อพญานาครู้เรื่องจึงไปบอกนางมุจลินท์ จันทะโครบได้พบนางและอยู่ร่วมกันที่เมืองบาดาลด้วยความสุข ครั้นถึงกำหนดที่บรรดานาคต้องพ่นพิษ มนุษย์ที่อยู่ใกล้จะตายหมดเพราะไม่อาจทนพิษได้ พญานาคจึงส่งจันทะโครบ นางมุจลินท์ และจันทะวงศ์กลับเมืองมนุษย์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory