โลโก้ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรLogo
logo
  • หน้าหลัก
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
  • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • นโยบายการใช้งาน
    • ติดต่อเรา
    • ศมส
ขยายขนาดตัวอักษร

ตัวละครและปกิณกะ

  1. หน้าหลัก
  2. ตัวละครและปกิณกะ
  3. จันทะวงศ์

จันทะวงศ์

  • จันทะวงศ์
  • ชื่อตัวละคร
รหัสข้อมูล
TLD-003-0921
ชื่อ
จันทะวงศ์ ( ชื่อตัวละคร)
วรรณคดี
จันทะโครบ, นิทาน  
คำอธิบายเนื้อเรื่อง

จันทะวงศ์เป็นตัวละครในเรื่องจันทะโครบ เป็นโอรสของจันทะโครบ* กับนางมุจลินท์*

หลังจากที่จันทะโครบถูกโจรป่าสังหาร พระอินทร์ได้ช่วยชุบชีวิตและบอกว่านางโมรา* ซึ่งออกมาจากผอบนั้นเป็นหญิงกาลกิณี เนื้อคู่ที่แท้จริงคือนางมุจลินท์ ธิดาพญานาคกับนางกินรีซึ่งอยู่ในถ้ำกลางป่า มีอสูรหุ่นพยนต์เฝ้าอยู่ จันทะโครบสังหารหุ่นพยนต์ได้และได้นางมุจลินท์เป็นชายา เมื่อนางมีครรภ์ได้ 3 เดือน จันทะโครบพานางเดินทางกลับเมือง ระหว่างเดินไปในป่าถูกนางยักษ์ม่ายตนหนึ่งร่ายมนตร์โปรยยาสะกด ทุบตีนางมุจลินท์จนสลบและนำร่างทิ้งน้ำ แล้วนางยักษ์แปลงกายเป็นนางมุจลินท์แทน พระสมุทรผุดเป็นกอสวะรองรับร่างนางมุจลินท์ไว้และเทวดาช่วยพาไปถึงปากปล่องเมืองบาดาล

พญานาคขึ้นมาเล่นน้ำได้พบธิดาจึงพาไปดูแลจนนางประสูติโอรส เมื่อกุมารมีชันษา 7 ปีพญานาคให้ชื่อว่าจันทะวงศ์ พญานาครักนัดดามาก มอบศรวิเศษให้และจัดกุมารที่เป็นญาติชื่อพรหมินทร์* และพิณสุวรรณ* ให้เป็นพี่เลี้ยงพร้อมทั้งบริวารเด็กๆ จำนวนห้าร้อยเป็นมหาดเล็ก จันทะวงศ์มีฤทธิ์เหมือนอัยกา สามารถแทรกพื้นดินได้

วันหนึ่งจันทะวงศ์ลาอัยกาขึ้นจากบาดาลไปเที่ยวป่าพร้อมพี่เลี้ยงและบรรดามหาดเล็ก พบยักษ์ชื่อดึงษกำม์* ซึ่งกลับจากเฝ้าท้าวเวสสุวัณ* ยักษ์เห็นกุมารทั้งหลายก็จะจับกิน จันทะวงศ์เข้าต่อสู้ เมื่อยักษ์ดึงษกำม์เหาะขึ้นไปบนเมฆ พรหมินทร์และพิณสุวรรณพี่เลี้ยงของจันทะวงศ์กลายร่างเป็นนาครัดยักษ์จนล้มกลิ้ง ดึงษกำม์ยอมแพ้จันทะวงศ์ ถวายบุตรชื่อกาลวุธ* เป็นข้ารับใช้พร้อมกับดวงแก้ววิเศษซึ่งทำให้เหาะได้ และบอกว่าถ้าจันทะวงศ์คิดถึงตนเมื่อใดจะไปหา จันทะวงศ์อยู่ในเมืองบาดาลอย่างสุขสบาย

ครั้นเมื่อจันทะโครบจับกลนางยักษ์แปลงได้ก็ออกตามหานางมุจลินท์ วันที่จันทะโครบมาถึงเขตป่า จันทะวงศ์รู้สึกร้อนรุ่มอยากจะไปชมป่าเล่นก็ลามารดาและอัยกาขึ้นจากบาดาล เมื่อพบจันทะโครบและไต่ถามกัน จันทะวงศ์ไม่เชื่อว่าเป็นบิดาจึงแผลงศรหมายจะสังหาร จันทะโครบตั้งสัตย์อธิษฐานว่าถ้ากุมารเป็นโอรสจริงขออย่าให้ตนต้องอาวุธใดๆ จันทะวงศ์แผลงศรถึง 3 ครั้ง ศรกลายเป็นข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียนบูชาทุกครั้ง เมื่อจันทะโครบแผลงศรไปบ้างก็กลายเป็นขนมนานาชนิด

จันทะวงศ์กลับไปยังบาดาลเล่าเหตุการณ์ให้พญานาคฟัง พญานาครู้ว่าจันทะโครบตามมาถึงแล้วก็ชวนนางมุจลินท์ไปหาสวามีโดยมีจันทะวงศ์นำทาง ทั้งหมดจึงได้อยู่ร่วมกันในเมืองบาดาล จนกระทั่งถึงกำหนดที่บรรดานาคจะพ่นพิษ มนุษย์ที่อยู่ใกล้จะตายหมดเพราะทนพิษนาคไม่ได้ พญานาคจึงส่งทั้งจันทะวงศ์ จันทะโครบ และนางมุจลินท์กลับเมืองมนุษย์โดยมีพี่เลี้ยงทั้งสองของจันทะวงศ์และยักษ์กาลวุธไปด้วย

ขณะเดินทางในป่าทุกคนนอนหลับอยู่บนราชรถ เทพยดาประจำภูเขาเห็นจันทะวงศ์มีรูปงาม ควรมีคู่ครองที่เหมาะสมกันจึงร่ายมนตร์สะกดไพร่พลนาค แล้วอุ้มสมจันทะวงศ์ไปอยู่ร่วมกับนางมัจฉา* ธิดาท้าวสหัสรังสี* พญายักษ์แห่งเมืองโรมทัน* นางมัจฉาอยู่กับจันทะวงศ์ในปราสาทด้วยความหลงใหลจนไม่ได้ขึ้นเฝ้าบิดา

เมื่อท้าวสหัสรังสีรู้เรื่องก็ยกพลยักษ์ล้อมปราสาทของนางมัจฉา จับจันทะวงศ์ได้และให้นำไปประหาร จันทะวงศ์ซึ่งไม่มีอาวุธติดตัวก็ร่ายมนตร์แทรกพื้นดินหนีไปถึงฝั่งมหาสมุทร รำพันถึงบิดามารดา อัยกา นางมัจฉา และคิดถึงดึงษกำม์แล้วก็สลบไป ฝ่ายดึงษกำม์เกิดร้อนรุ่มจึงใช้กล้องส่อง เห็นจันทะวงศ์อยู่ริมฝั่งสมุทรก็รีบเหาะไปหา นำน้ำอมฤตชโลมทาจนจันทะวงศ์รู้สึกตัว จันทะวงศ์คิดจะไปตามบิดามารดา ดึงษกำม์แนะว่าให้ไปเริ่มต้นที่ปากปล่องเมืองนาคแล้วตามรอยราชรถไป

ฝ่ายนางมัจฉาเมื่อรู้ว่าจันทะวงศ์ยังมีชีวิตอยู่ก็ออกตามหา นางฉีกผ้านุ่งห่มให้ขาดเป็นการอำพราง เอาฝุ่นทรายทาตัวให้มอมแล้วหนีออกจากเมือง นางเดินไปในป่าโดยไม่รู้ทิศทางจนหมดแรงล้มสลบลง เทพเจ้าเขาเขียวเห็นนางเป็นหญิงดีซื่อสัตย์ต่อสามีก็เนรมิตตนเป็นพราหมณ์ชรา นำน้ำอมฤตมาชโลมร่างนาง แปลงกายนางให้เป็นพราหมณ์และบอกทางที่จะไปพบสวามี

ส่วนจันทะวงศ์กับดึงษกำม์ตามรอยราชรถไปจนถึงเมืองท้าวพรหมทัต* ดึงษกำม์แปลงกายมิให้ใครรู้ว่าเป็นยักษ์ นางมัจฉาในร่างพราหมณ์เดินไปในป่าพบพญายักษ์ชื่อกาลสูร* ซึ่งมีฤทธิ์ปราบได้ถึงสวรรค์ ทุก 7 วันจะไปล่าสัตว์ในป่า ท้าวกาลสูรพบพราหมณ์มัจฉาก็นึกเอ็นดูและคิดว่าเป็นชายจึงพาไปเป็นโอรสบุญธรรม พราหมณ์มัจฉาไม่กล้าขัดเพราะเห็นว่ายักษ์มีไมตรีด้วย

ต่อมาเมื่อท้าวกาลสูรออกป่าไปล่าสัตว์ พราหมณ์มัจฉาสบโอกาสจึงหนีไป ท้าวกาลสูรออกติดตาม พราหมณ์มัจฉาหนีไปถึงบรรณศาลาของพระอรุณฤๅษี* พระฤๅษีรู้ว่าพราหมณ์คือนางมัจฉากำลังตามหาสวามีและรู้ว่าท้าวกาลสูรจะถึงแก่ชีวิตก็ให้เจรจากันเอง ท้าวกาลสูรร้องไห้คร่ำครวญขอให้พราหมณ์กลับไปกับตน เมื่อไม่เป็นผลก็จารึกมนตร์สำหรับใช้ในการรบและมอบอาวุธให้แล้วก็สิ้นใจตาย

ขณะนั้นจันทะวงศ์ซึ่งออกตามหานางมัจฉาไปจนถึงป่าที่กองทัพของยักษ์ตั้งอยู่ พบพราหมณ์มัจฉาอยู่กับพระฤๅษีก็จำได้ว่าเป็นชายาแต่พราหมณ์มัจฉาไม่ยอมรับ เมื่อกลับไปเมืองสามัญ*ของท้าวกาลสูรเพื่อทำพิธีศพ จันทะวงศ์ได้บรรทมร่วมเขนยกับนางมัจฉา ร่างนางจึงกลับเป็นหญิงดังเดิม ฝ่ายท้าวสหัสรังสีเมื่อธิดาคือนางมัจฉาหายไปก็คิดว่าจันทะวงศ์พาหนี พญายักษ์คิดแค้นจึงยกทัพไปรบกับจันทะวงศ์และถูกจันทะวงศ์ยิงด้วยศรสิ้นชีวิต

ผู้เรียบเรียง
เสาวณิต วิงวอน 
เจ้าของสิทธิ์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
รูปแบบลิขสิทธิ์
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม
2021 © ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
www.sac.or.th
วันจันทร์-ศุกร์ : 08.00-17.00 น.
TELEPHONE
0-2880-9429
FAX
0-2880-9332
E-MAIL
webmaster@sac.or.th
E-MAIL (งานสารบรรณ)
saraban@sac.or.th

นิสา เชยกลิ่น

นิสา เชยกลิ่น
Content Manager

ช่องทางการรับฟังความคิดเห็น
Application : Smart SAC
ประเภท
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
เกี่ยวกับ
  • เกี่ยวกับโครงการ
  • นโยบายการใช้งาน
ติดต่อ
  • ติดต่อเรา
  • ศมส.
  • นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
  • ประกาศความเป็นส่วนตัว
SmartSAC in App Store
SCAN ME
open in App Store
SmartSAC in Play Store
SCAN ME
open in Play Store