TLD-003-1095
เจ๋ฮวนก๋ง (ชื่อตัวละคร)
เจ๋ฮวนก๋ง หรือก๋งจูเสียวแปะ*เป็นตัวละครในเรื่องเลียดก๊ก เป็นบุตรของก๋งจูหยี*เจ้าเมืองเจ๋* กับบุตรีของเองคุย*เจ้าเมืองกี๋*
ก๋งจูเสียวแปะกล่าวเปรียบเปรยก๋งจูหยีเรื่องนางบุนเกียง*จนก๋งจูหยีโกรธขับไล่ก๋งจูเสียวแปะไป เปาซกแหย*พาก๋งจูเสียวแปะมาอยู่ที่เมืองกี๋ ต่อมารู้ข่าวว่ายงสิม*ฆ่าก๋งจูดี*ตายแล้ว เมืองเจ๋จึงไม่มีผู้ปกครอง เปาซกแหยจึงแนะนำให้ก๋งจูเสียวแปะขอกองทัพเจ้าเมืองกี๋ผู้เป็นตารีบเดินทางกลับไปเมืองเจ๋
ครั้นก๋งจูกิว*และก๋งจูเสียวแปะเดินทางมาพบกันที่ทางต่อแดน กวนต๋ง*รู้ว่าก๋งจูเสียวแปะจะเดินทางไปเมืองเจ๋ จึงเอาธนูยิงถูกท้องของก๋งจูเสียวแปะ ก๋งจูเสียวแปะแกล้งกัดลิ้นตนให้เลือดออกแล้วแสดงให้กวนต๋งเห็นว่าตนเองบาดเจ็บหนัก เปาซกแหยรีบพาก๋งจูเสียวแปะเข้าเมืองเจ๋ ก๋งจูเสียวแปะจึงได้เป็นเจ้าเมืองเจ๋มีนามว่าเจ๋ฮวนก๋ง เจ้าเมืองฬ่อ*คิดว่าก๋งจูเสียวแปะตายจึงนำก๋งจูกิวเดินทางมาเมืองเจ๋ ครั้นมาใกล้ได้พบกองทัพของยงหลิม*ตั้งทัพรับศึกอยู่จึงรู้ว่าก๋งจูเสียวแปะได้เป็นเจ้าเมืองเจ๋จึงเกิดรบพุ่งกัน กองทัพเมืองฬ่อแตกพ่ายกลับเมืองไป กองทัพเมืองเจ๋ยกทัพตามไปประชิดเมืองแล้วให้เจ้าเมืองฬ่อตัดศีรษะกวนต๋ง ก๋งจูกิว และเตียวคุด*ส่งให้จึงจะเลิกทัพ เจ้าเมืองฬ่อจำต้องตัดศีรษะก๋งจูกิว เตียวคุด และคุมตัวกวนต๋งส่งให้กองทัพเมืองเจ๋ กองทัพเมืองเจ๋จึงถอยทัพกลับไป
ครั้นเปาซกแหยกลับถึงเมืองได้อ้อนวอนให้เจ๋ฮวนก๋งอภัยโทษให้กวนต๋ง เจ๋ฮวนก๋งเกรงว่าถ้าขืนดื้อดึงลงโทษ กวนต๋งและเปาซกแหยจะเสียใจจึงยอมอภัยให้ ต่อมาเจ๋ฮวนก๋งจะตั้งเปาซกแหยเป็นเสียงเขงผู้สำเร็จราชการ เปาซกแหยปฏิเสธและแนะนำให้ตั้งกวนต๋งแทน เจ๋ฮวนก๋งจึงออกไปรับกวนต๋งที่นอกเมืองแล้วสอบถามความคิดเห็นในการปกครองเมืองเจ๋ กวนต๋งช่วยเจ๋ฮวนก๋งปกครองเมืองเจ๋จนมีความเจริญรุ่งเรืองได้เป็นหัวเมืองเอกและช่วยให้เจ๋ฮวนก๋งได้เป็นใหญ่เหนือเจ้าเมืองอื่นๆ
ต่อมาเมื่อทัพเมืองหยง*ยกมาจะตีเมืองหลวง เจ๋ฮวนก๋งให้กวนต๋งยกทัพไปช่วยแต่ทัพเมืองหยงได้เลิกทัพไปแล้ว กวนต๋งจึงยกทัพกลับมาเมืองเจ๋ ต่อมากวนต๋งป่วย เจ๋ฮวนก๋งมีความวิตกจึงให้หมอไปพยาบาลแต่ไม่ทุเลา เจ๋ฮวนก๋งจึงไปเยี่ยมที่บ้านและถามว่าควรให้ใครดูแลบ้านเมืองต่อ กวนต๋งสั่งความแล้วก็สิ้นชีวิต เจ๋ฮวนก๋งตั้งกองซุนสิบผอง*เป็นขุนนางผู้ใหญ่แทนกวนต๋ง กองซุนสิบผองทำหน้าที่ได้เดือนหนึ่งก็สิ้นชีวิต เจ๋ฮวนก๋งจึงให้หาเปาซกแหยเข้ามาจะตั้งให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ เปาซกแหยปฏิเสธ เจ๋ฮวนก๋งจึงถามว่าจะให้ตั้งผู้ใด เปาซกแหยจึงว่าหากเจ๋ฮวนก๋งขับขุนนางสอพลอคือ ซูเตียว* เอ็ดแหย* และไคหอง* ออกจากเมืองตามคำกวนต๋งสั่งไว้ ตนก็จะยอมเป็นขุนนางทำราชการสืบไป เจ๋ฮวนก๋งจึงขับไล่ขุนนางทั้งสามแล้วตั้งเปาซกแหยเป็นขุนนางผู้ใหญ่สำเร็จราชการในเมือง แต่ครั้นเจ๋ฮวนก๋งขับขุนนางทั้งสามออกไปแล้วก็ไม่สบายใจจึงให้หาตัวเอ็ดแหย ซูเตียว และไคหอง กลับมาอีก เปาซกแหยเห็นเจ๋ฮวนก๋งไม่ฟังคำของตนก็เสียใจกลับบ้าน ทุกข์ตรอมใจจนตาย ขุนนางทั้งสามจึงได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ในเมืองเจ๋
ครั้นเจ๋ฮวนก๋งประชวรหนัก เอ็ดแหย ซูเตียว และไคหอง สั่งห้ามมิให้ผู้ใดเข้ามาเยี่ยมเจ๋ฮวนก๋งแต่เกรงว่าจะมีผู้ลอบเข้าไปหาเจ๋ฮวนก๋งจึงให้ก่อกำแพงสูง 7 วา 2 ศอกล้อมรอบตึก โดยไม่มีประตูเข้าออกแต่ทำท่อไว้ริมกำแพงแห่งหนึ่งขนาดพอให้สุนัขตัวใหญ่ลอดเข้าได้ เวลานั้นนางอันหงอหยี*ภรรยาน้อยของเจ๋ฮวนก๋งเป็นคนร่างเล็กได้คลานเข้าไปตามท่อ เจ๋ฮวนก๋งเห็นนางก็ขอข้าวขอน้ำกิน นางอันหงอหยีจึงว่าเขาก่อกำแพงล้อมไว้แต่นางคิดถึงจึงเล็ดลอดเข้ามาและคิดว่าหากเจ๋ฮวนก๋งตายตนก็จะตายตาม เจ๋ฮวนก๋งได้ฟังก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ ร้องไห้จนอาเจียนเป็นโลหิตขาดใจตาย เมื่อเจ๋ฮวนก๋งตายอายุได้ 73 ปี
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory