นิราศเรื่องนี้กล่าวถึงการเดินทางทางเรือเพื่อไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ มหาฤกษ์ออกเดินทางผ่านหน้าวัดสุทัศน์เทพวราราม ท่านนึกถึงเมื่อครั้งยังบวชเณร พระวินัยธรรม วัดเชิงท่า พระนครศรีอยุธยาได้ฝากท่านเข้าศึกษาพระปริยัติธรรมกับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ(อู่) ที่วัดแห่งนี้ ท่านต้องเข้าเวรแปลประโยคบาลีและจำพรรษาอยู่ที่วัดสุทัศน์เทพวรารามตลอดมาจนสิ้นรัชกาลที่ 3 จึงลาสิกขา ผ่านบ้านพระยาศรีที่เคยสนิทกันมากถึงกับสัญญากันว่าจะคบช่วยเหลือกันตลอดไป แต่ภายหลังท่านตกอับพระยาศรีก็มิได้ทักทาย แต่ท่านก็มิได้โกรธตอบ เมื่อผ่านวัดราชบพิธ ได้อธิษฐานขอให้บุญอานิสงส์ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้ส่งให้ทรงเจริญด้วยพระเกียรติยศด้วย จากนั้นผ่านวังหน้าออกทางคลองหลอด ผ่านที่ต่างๆ เมื่อถึงนครปฐมแวะจอดเรือที่ท่าหน้ากงสีของขุนพัฒน์ แล้วไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ เมื่อนมัสการพระปฐมเจดีย์แล้วไปเยี่ยมพระยาสุธรรมไมตรี
ตอนท้ายของเรื่องกล่าวไว้ว่า แม้ว่านิราศพระปฐมจะเป็นเรื่องรักแต่ท่านมิประสงค์ให้ลุ่มหลง เพียงแต่ให้มีรสอ่านสนุกเท่านั้น ท่านขอให้ผู้อ่านมุ่งปฏิบัติตามพระพุทธเจ้า นึกถึงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาและอย่าละวางหนทางที่ไปสู่นิพพาน นิราศเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นคติความเชื่อและสภาพสังคมของคนในยุคนั้นได้ดี