กล่าวถึงท้าวแมนสรวงผู้มีชายาชื่อนางบุญเหลือ และมีพระโอรสชื่อพระลอ ฝ่ายท้าวพิมพิสาครเจ้าเมืองสรองมีโอรสชื่อท้าวพิชัยพิษณุกร ซึ่งมีชายาคือนางดาราวดีและมีราชธิดาสององค์ชื่อเพื่อนและแพง
ท้าวแมนสรวงยกทัพไปล้อมเมืองสรอง ได้ชนช้างชนะและประหารท้าวพิมพิสาครได้ แต่ท้าวพิชัยพิษณุกรเข้ากันพระศพกลับเข้าเมืองทัน ท้าวแมนสรวงไม่อาจตีเมืองได้ จึงยกพลกลับแมนสรวง จากนั้นไม่นานก็สิ้นพระชนม์ พระลอราชโอรสจึงขึ้นครองเมือง พระนางบุญเหลือราชชนนีสู่ขอนางลักษณาวดีมาให้เป็นชายา
ฝ่ายทางเมืองสรอง ท้าวพิชัยพิษณุกรเสด็จขึ้นครองเมือง ต่อมานางเพื่อนนางแพงได้ฟังเพลงซอยอยศพระลอว่าทรงโฉมงามเลิศหล้า ก็เกิดความรักผูกพันใคร่ได้มาเป็นสามี แต่ไม่กล้าแสดงออกได้แต่ตรอมใจจนซูบผอม นางรื่นนางโรยพี่เลี้ยงสังเกตเห็นและเข้ามาสอบถามจนรู้ความ จากนั้นพระพี่เลี้ยงทั้งสองจึงอาสาดำเนินการชักนำพระลอมาสู่หาเพื่อนแพงโดยมิให้เกิดเรื่องครหานินทาถึงนางได้
ปู่เจ้าเล็งญาณดูแล้ว เห็นว่าพระลอและเพื่อนแพงเคยทำบุญกรรมร่วมกันมา และเคยอธิษฐานขอพึ่งบุญตน จึงตัดสินใจรับช่วยเหลือ ขั้นแรกใช้ตะกร้อแฝงมนตร์ยกปักยอดต้นยางใหญ่ให้ลมพัดปั่นใจพระลอจนอยากมาพบสองนาง แต่ทางฝ่ายนางบุญเหลือราชมารดาให้นายแก้วนายขวัญหาหมอมาแก้ได้ เพื่อนแพงเห็นช้าวันให้นางพี่เลี้ยงไปเตือน ปู่เจ้าจึงเติมมนตร์เขียนยันต์เพิ่มขึ้น คราวนี้หมอในเมืองพระลอแก้ไม่ได้ แต่มีผู้ชี้แนะให้เชิญปู่หมอสิทธิชัยจากในป่ามาช่วยล้างมนตร์ได้สำเร็จอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เมื่อนางรื่นนางโรยไปเตือนอีก ปู่เจ้าจึงใช้วิธีจัดทัพเทพยดาและผีป่าส่งไปกำราบผีเมืองพระลอจนราบคาบ แล้วจึงส่งสลาเหินซึ่งลงมนตร์ยาไปกับลม ตกลงปนหมากเสวยของพระลอ เมื่อพระลอเสวยสลามนตร์นั้น คุณยาก็ซ่านในพระองค์ แม้แต่หมอสิทธิชัยก็ไม่อาจจะช่วยได้อีก
ครั้นนางทัดทานด้วยรู้ทันพระลอก็ไม่ยอม ที่สุดนางบุญเหลือจึงจำใจอนุญาตให้ไป
พระลอออกจากเมืองไปพร้อมพี่เลี้ยง คือนายแก้วนายขวัญ โดยปลอมองค์เป็นขุนด่านมาเลียบชายแดน จนกระทั่งถึงแม่น้ำกาหลง ข้ามฝั่งไปปลูที่ประทับแล้วลงสรงน้ำ ด้วยความที่ยังลังเลใจพระลอจึงเสี่ยงสัตยาธิษฐานว่าถ้าจะปลอดภัยสมประสงค์ให้น้ำไหลเป็นปกติ แต่ถ้าจะเกิดอันตรายให้เกิดน้ำวน ปรากฏว่าน้ำวนและแดงเป็นสีเลือดแต่เฉพาะในสายตาพระลอเพียงองค์เดียว
ระหว่างนั้นนางรื่นนางโรยไปเตือนปู่เจ้าอีก ปู่เจ้าจึงเรียกไก่ตัวงามมาลงผี ส่งไปล่อพระลอจากพลับพลาในป่า จนเข้ามาถึงแดนเมืองสองกับพี่เลี้ยงสองนาย พระลอปลอมองค์เป็นพราหมณ์ชื่อศรีเกศ นายแก้วนายขวัญเปลี่ยนชื่อเป็นนายรัตน์นายราม ในคืนนั้นทั้งพระลอและเพื่อนแพงก็เกิดนิมิตเป็นลางว่าจะได้สู่สมกัน
รุ่งเช้านางรื่นนางโรยได้พบนายแก้วนายขวัญ เกิดถูกใจในกันและกันจึงเกี้ยวพาราสีกันจนได้สนิทชิดชม นางพี่เลี้ยงนำพระลอเข้าไปอยู่กับสองนางในตำหนักหลวงด้วย พร้อมกับพานายแก้วและนายขวัญเข้าไปอยู่ร่วมกันอย่างลับ ๆ ประมาณครึ่งเดือนความลับก็แตก ท้าวพิชัยพิษณุกรพิโรธจัดลอบมาดู แต่พอได้เห็นโฉมพระลอก็ทรงหายพิโรธ ทรงสัญญาจะจัดพิธีอภิเษกสมรสให้โดยเร็ว แต่ยังมิทันจะทำสิ่งใด ข่าวก็ลือไปถึงเจ้าย่าซึ่งเห็นว่าพระลอเป็นลูกศัตรู เจ้าย่ารวบรวมผู้คนเข้ามาล้อมตำหนักของเพื่อนแพง มุ่งหมายพิฆาตพระลอให้สิ้นชีพ ฝ่ายพระลอ นายแก้วนายขวัญ ทั้งเพื่อนแพงและนางรื่นนางโรยร่วมกันต่อสู้ ถูกระดมยิงด้วยธนู ทั้งสามกษัตริย์จึงสิ้นพระชนม์พร้อมกันในท่ายืนหันขนองอิงกัน หลังจากสี่พี่เลี้ยงสิ้นชีพล่วงไปก่อนแล้ว
ท้าวพิชัยพิษณุกรทราบเรื่องก็ลวงให้ผู้รุมฆ่าสามกษัตริย์มารับรางวัล แล้วจับประหารเสียสิ้น รวมทั้งเจ้าย่าซึ่งมิใช่ราชมารดาแท้นั้นด้วย จากนั้นจึงเตรียมการศพโดยแจ้งข่าวไปยังนางบุญเหลือ ณ เมืองแมนสรวง เมื่อถวายพระเพลิงแล้วทั้ง 2 เมืองก็สืบสร้างสัมพันธไมตรีต่อกันสืบมา