ลักษณวงศ์มีเรื่องย่อดังนี้ กษัตริย์เมืองอิศราชื่อท้าวพรหมทัต มเหสีชื่อนางสุวรรณอำภา และโอรสชื่อลักษณวงศ์ วันหนึ่งท้าวพรหมทัตพามเหสีและโอรสเสด็จประพาสป่า พบนางยักษ์ขินีหม้าย นางยักษ์อยากได้ท้าวพรหมทัตเป็นสวามี จึงปลอมตัวเป็นกวางทองล่อให้ท้าวพรหมทัตขี่ม้าติดตามจนไกลจากกองทัพ จึงกลายร่างเป็นยักษ์ พูดใส่ความนางสุวรรณอำภาว่าเป็นคนใช้ให้ตนปลอมเป็นกวางทองเพื่อล่อท้าวพรหมทัตมาให้ยักษ์กิน ท้าวพรหมทัตตกใจจนสลบไป นางยักษ์จึงแปลงกายเป็นสาวงาม เมื่อท้าวพรหมทัตฟื้น นางยักษ์แปลงก็โกหกว่า นางเกิดในดอกไม้อยู่ในป่าคนเดียว พบยักษ์จะทำร้ายท้าวพรหมทัตจึงช่วยไว้ ท้าวพรหมทัตหลงเชื่อให้ทหารจับนางสุวรรณอำภาไปประหารชีวิต ลักษณวงศ์สงสารพระมารดาขอตามพระมารดาไปด้วย เพชฌฆาตสงสารจึงปล่อยให้หนีไป นางสุวรรณอำภาและลักษณวงศ์ระหกระเหินไปในป่า ส่วนท้าวพรหมทัตก็พานางยักษ์แปลงกลับเมือง ครองรักกันอย่างมีความสุขมีลูกสาวชื่อนางทัศโกสุม
ฝ่ายนางสุวรรณอำภากับลักษณวงศ์เดินทางมากลางป่าได้ 3 เดือน วันหนึ่งมาถึงริมสระน้ำจึงหยุดพักนอนหลับไป ท้าววิรุญมาศยักษ์ครองเมืองมยุรามาพบก็นึกรักนางสุวรรณอำภา จึงลักพาตัวนางไปเมืองมยุรา ระหว่างทางนางสุวรรณอำภาพบลิงตัวหนึ่งจึงฝากสไบไว้ให้ลักษณวงศ์เพื่อบอกทาง เมื่อถึงเมืองมยุรา ท้าววิรุญมาศพยามเล้าโลม แต่นางไม่ยินยอมอธิษฐานขอให้ความซื่อสัตย์ต่อสามีช่วยป้องกันนางให้พ้นจากการล่วงเกินของยักษ์ ยักษ์จึงเปลี่ยนใจเลี้ยงดูนางอย่างยกย่อง
ลักษณวงศ์ตื่นขึ้นไม่เห็นมารดาก็เศร้าโศกเดินทางไปคนเดียว พบนางทิพเกสรซึ่งพระฤๅษีชื่อมหาเมฆ เก็บนางมาจากดอกบัวมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่เล็ก ลักษณวงศ์ขออยู่เล่าเรียนวิชากับพระฤาษีและเป็นเพื่อนเล่นกับนางทิพเกสรจนโต จึงลาพระฤๅษีออกไปตามหามารดา พระฤๅษีเนรมิตม้านิลพาชีกับพระขรรค์ให้
ลักษณวงศ์พบลิงที่นางสุวรรณอำภาฝากผ้าสไบไว้ให้ จึงตามไปถึงเมืองมยุรา ปลอมเป็นนักบวชเข้าไปสืบถาม แล้วจึงลอบเข้าไปหามารดาในวังแล้วพาหนี เมื่อท้าววิรุญมาศตามไปก็ถูกลักษณวงศ์ฆ่าตาย เหล่าทหารยักษ์จึงเชิญลักษณวงศ์และมารดากลับมาครองเมืองมยุรา
คืนหนึ่งลักษณวงศ์ฝันถึงนางทิพเกสร จึงลามารดาไปรับนาง แต่มารดาขอให้ไปช่วยบิดาก่อน เพราะบิดาถูกนางยักษ์ทำเสน่ห์อยู่ ลักษณวงศ์จึงยกทัพมาล้อมเมืองอิศรา นางยักษ์ปลอมอาสาออกรบแทนโดยปลอมตัวเป็นท้าวพรหมทัต ลักษณวงศ์รู้ทันว่าเป็นยักษ์ปลอมและจับนางยักษ์ได้ ท้าวพรหมทัตกับนางทัศโกสุมยอมแพ้ เมื่อรู้ความจริง ท้าวพรหมทัตก็รับนางสุวรรณอำภากับลักษณวงศ์เข้าเมืองอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ฝ่ายนางทิพเกสรคอยลักษณวงศ์อยู่ที่อาศรมพระฤๅษี จนพระฤๅษีตาย นางทิพเกสรโศกเศร้าคิดจะฆ่าตัวตาย นกแก้วสองผัวเมียห้ามไว้ นางกินนรี 5 ตน คือ นางสร้อยสุวรรณา มณีเทวา บุปผา จันทพัตรา รัตนา ซึ่งอาศัยอยู่ในถ้ำสุรกานต์เขามณี นางกินรีชวนนางทิพเกสรไปอยู่ด้วยกันในถ้ำสุรกานต์ และคอยผลัดเปลี่ยนเวรกันมาคอยลักษณวงศ์
ลักษณวงศ์คิดถึงนางทิพเกสร จึงลาพระบิดามารดามารับนาง ลักษณวงศ์ได้พบนางรัตนาและได้นางเป็นชายา แล้วขอให้นางพาไปพบนางทิพเกสร เมื่อไปถึงถ้ำสุรกานต์ ลักษณวงศ์ก็ได้พบนางทิพเกสรได้อยู่ร่วมกันพร้อมทั้งนางกินรีทั้ง 5 จนนางทิพเกสรท้อง ลักษณวงศ์จึงพานางทิพเกสรกลับเมือง ขณะนอนหลับอยู่ในป่า มีวิชาธรชื่อมิหงสามาพบนึกรักนางทิพเกสร จึงอุ้มนางทิพเกสรหนีไป และมาพบกับวิชาธรอีกตนชื่อจันทา ซึ่งเห็นทิพเกสรก็นึกรักเช่นกันจึงต่อสู้แย่งชิงนาง วิชาธรต่อสู้กันจนตายทั้ง 2 ตน นางทิพเกสรต้องเดินป่าตามลำพัง เทวดาที่สถิตอยู่ที่ต้นรังใหญ่สงสาร จึงปลอมตัวเป็นพราหมณ์มอบแหวนวิเศษให้ ถ้าใส่นิ้วก้อยจะกลายร่างเป็นชาย ถ้าใส่นิ้วนางก็จะกลับกลายเป็นหญิงตามเดิม นางทิพเกสรจึงปลอมตัวเป็นพราหมณ์ชื่อพราหมณ์เกสร เทวดาชี้ทางให้ไปทางทิศเฉียงอุดรบูรพาแล้วจะพบสามี
ลักษณวงศ์เมื่อตื่นขึ้นไม่พบนางทิพเกสรก็เศร้าโศก ตามหานางจนมาถึงเมืองยุบล มีท้าวกรดสุริกาลเป็นเจ้าผู้ครองเมือง มีมเหสีชื่อนางมณีอัมพรและธิดาชื่อนางยี่สุ่น ลักษณวงศ์ได้พบนางยี่สุ่น ต่างมีใจรักใคร่กัน ลักษณวงศ์จึงลอบเข้าไปหานางยี่สุ่นในห้องและได้นางเป็นเมีย ท้าวกรดสุริกาลทราบเรื่องก็พาทหารมาล้อมหมายฆ่า แต่ถูกลักษณวงศ์แผลงศรเป็นพญานาควิ่งเข้ารัดทหารและจะเข้ารัดท้าวกรดสุริกาล นางยี่สุ่นขอร้องให้ไว้ชีวิตบิดา ท้าวกรดสุริกาลยอมแพ้ยกนางยี่สุ่นให้อภิเษกกับลักษณวงศ์พร้อมกับยกเมืองยุบลให้ครอบครอง
พราหมณ์เกสรตามหาลักษณวงศ์ พบพรานป่าพาไปเมืองยุบล และเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองยุบล พราหมณ์เกสรได้รู้ว่าลักษณวงศ์ได้นางยี่สุ่นเป็นชายาก็เศร้าโศกเสียใจ ขอให้พรานป่าพาเข้าเฝ้าถวายตัวรับใช้ ลักษณวงศ์รับพราหมณ์ไว้รับใช้ใกล้ชิดเพราะเห็นว่าเหมือนนางทิพเกสร จึงรักและเอ็นดูพราหมณ์มากทำให้นางยี่สุ่นอิจฉา หาเรื่องใส่ร้ายว่าพราหมณ์ลวนลามนาง ลักษณวงศ์โกรธสั่งฆ่าพราหมณ์ เมื่อเพชฌฆาตประหาร พราหมณ์กลายร่างเป็นนางทิพเกสร และประสูติโอรส ลักษณวงศ์รู้ความจริงก็โศกเศร้าเสียใจ สั่งให้จัดงานศพนางทิพเกสรอย่างยิ่งใหญ่