รหัสข้อมูล
ชื่อเรื่องหลัก
ยุคสมัย
วันที่แต่ง
ผู้แต่ง
คำประพันธ์
ฉันทลักษณ์
โคลงกระทู้ , โตฎกฉันท์ 12 , อินทรวิเชียรฉันท์ , สัทธราฉันท์ , สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ , วสันตดิลกฉันท์ , มาลินีฉันท์ , กาพย์สุรางคนางค์ , กาพย์ฉบัง
เนื้อเรื่องย่อ
เนื้อเรื่องว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปรารภศิลปะวิเศษชื่อ “อุรภินท์” ของพระองค์เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นพระสรรพสิทธิ์ พระสงฆ์จึงกราบทูลอาราธนาให้ทรงแสดงคุณวิเศษนั้น พระพุทธองค์ตรัสเล่าว่า พระเจ้าอุศุภราชและพระนางโกสุมแห่งเมืองคิริพัชร มีพระธิดาทรงพระสิริโฉมงดงามนามว่าสุพรรณโสภา นางไม่เคยตรัสกับชายใดเลย ท้าวพรหมทัต กษัตริย์เการพ และพระเจ้าโกศล แต่งเครื่องราชบรรณาการมาสู่ขอ แต่ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดสามารถทำให้สุพรรณาโสภาตรัสด้วยได้
พระสรรพสิทธิ์พระราชโอรสพระเจ้าวิชัยและพระนางอุบลแห่งอลิกนคร ได้สดับกิตติศัพท์ความงามของสุพรรณโสภาก็มีพระทัยปฏิพัทธ์ จึงเสด็จไปยังเมืองคิริพัชรพร้อมด้วยจิตรเสน พระเจ้าอุศุภราชทรงอนุญาตให้เข้าไปเจรจากับนางได้ พระสรรพสิทธิ์ทรงใช้เวทย์วิเศษชื่อ “อุรภินท์” ถอดดวงจิตของจิตรเสนไปไว้ตามที่ต่าง ๆ ภายในห้องบรรทมของสุพรรณโสภา เล่านิทาน 3 เรื่อง แล้วตั้งปริศนา 1 ข้อ ถามจิตรเสน คำตอบของจิตรเสนไม่ถูกพระทัยสุพรรณโสภา นางจึงกล่าวแย้งขึ้นทั้ง 4 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 ถอดดวงจิตไว้ที่ไม้สำหรับเขี่ยพระประทีป ทรงเล่านิทานประทานว่า นายวาณิช 4 คน จอดเรือนอนพักอยู่ คนที่ 1 เก็บแก่นจันทน์ที่ลอยน้ำมา แกะสลักเป็นรูปผู้หญิง คนที่ 2 นำเสื้อผ้ามาตกแต่งให้ คนที่ 3 ให้ดวงจิต และคนที่ 4 สนทนากับนางด้วยถ้อยคำที่อ่อนหวาน ชายใดควรจะได้นางเป็นภรรยา จิตรเสนตอบว่าชายคนที่ 1 นางสุพรรณโสภาตรัสแย้งว่า คนที่ 1 ควรเป็นบิดาผู้ให้กำเนิด คนที่ 3 ควรเป็นมารดาผู้ให้ชีวิตและคนที่ 4 ควรเป็นพี่ชาย คนที่ 2 จึงควรเป็นสามี
ครั้งที่ 2 ถอดดวงจิตไว้ที่แท่นพระบรรทม ทรงเล่าเรื่องพระกุมาร 4 พระองค์ซึ่งเชี่ยวชาญในศิลปศาสตร์ต่าง ๆ กัน พระกุมารองค์หนึ่งทำนายว่า จะมีนกหัสดีลิงค์โฉบสตรีบินผ่านมา ซึ่งเป็นจริงตามคำทำนาย พระกุมารองค์ที่ 2 น้าวธนูจะยิงนก เสียงกัมปนาทของสายธนูทำให้นกตกใจปล่อยนางตกลงไปในน้ำ พระกุมารองค์ที่ 3 ดำน้ำลงไปงมนางขึ้นมา แต่นางสิ้นชีวิตแล้ว พระกุมารองค์ที่ 4 จึงชุบชีวิตนาง พระกุมารทั้ง 4 คนนี้ ผู้ใดควรจะได้นางเป็นชายา จิตรเสนตอบว่าควรเป็นพระกุมารองค์ที่ยิงธนู แต่สุพรรณโสภาค้านว่า ควรเป็นพระกุมารองค์ที่ดำน้ำไปงมนางขึ้นมา
ครั้งที่ 3 ถอดดวงจิตไว้ที่ที่นอน แล้วยกนิยายโบราณมาเล่าเรื่องหญิงชาย 4 คู่พบรักกัน ฝ่ายชายถามที่อยู่ของฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงตอบเป็นปริศนาดังนี้ คนที่ 1 เสยผม คนที่ 2 ต้องถันทั้งสอง คนที่ 3 ลูบแก้ม และคนที่ 4 จับคิ้ว ชายทั้งสี่แก้ปริศนาไม่ออก โจรซึ่งถูกเสียบหลาวอยู่แก้ปริศนาให้ว่า คนที่เสยผมบ้านอยู่ทิศตะวันออก คนที่ต้องถันบ้านอยู่ทิศตะวันตก คนที่ลูบแก้มบ้านอยู่ทางทิศใต้ และคนที่ลูบคิ้ว อยู่ทางทิศเหนือ ชายทั้ง 4 คนรีบเดินทางไปบ้านหญิงคนรัก แต่เมื่อหญิงสาวทั้งสี่ทราบว่าผู้แก้ปริศนาคือโจรที่ถูกเสียบหลาวอยู่ ก็ขับไล่ชายทั้งสี่ และไปช่วยโจรลงมาจากหลาว ให้การรักษาพยาบาลโดยแบ่งหน้าที่กัน คือป้อนข้าว ต้มน้ำให้อาบ ล้างหน้า และเทของปฏิกูล พระสรรพสิทธิ์ถามว่านางใดควรจะได้เป็นภรรยาของโจร จิตรเสนเสนอว่าควรเป็นผู้ที่นำของปฏิกูลไปเท แต่สุพรรณโสภาท้วงว่าควรเป็นนางที่ป้อนข้าวเพราะทำให้โจรมีชีวิตอยู่ได้
ครั้งที่ 4 ใกล้รุ่งอรุณ พระสรรพสิทธิ์ย้ายดวงจิตไปไว้ในพระเขนย และถามจิตรเสนว่า ความนุ่มของเนื้อสตรีกับความนุ่มของเนื้อสำลีนั้น สิ่งใดนุ่มกว่ากัน จิตรเสนทูลว่าสำลีนุ่มกว่า แต่สุพรรณโสภาเห็นว่าเนื้อสตรีอ่อนนุ่มกว่าทุกสิ่ง แต่กระนั้นก็ยังไม่เท่าความอ่อนโยนที่สามีมีต่อภรรยา
พระสรรพสิทธิ์สามารถทำให้สุพรรณโสภาตรัสด้วยได้ พระสรรพสิทธิ์จึงได้เสกสมรสกับนาง ท้าวพรหมทัต กษัตริย์เการพ และพระเจ้าโกศลทรงทราบข่าว ยกทัพมาล้อมคิริพัชรนครเพื่อชิงนาง พระสรรพสิทธิ์กรีธาทัพออกทำสงคราม โดยใช้ศิลปะอุรภินท์เรียกดวงจิตออกจากร่าง กษัตริย์ทั้งสามยอมอ่อนน้อมและวิงวอนขอชีวิต พระสรรพสิทธิ์ก็ประทานให้ด้วยความเมตตา เสร็จศึก พระสรรพสิทธิ์พาสุพรรณโสภาเสด็จกลับอลิกนคร ระหว่างทางสุพรรณโสภาถูกยักษ์ชื่อกาลจักรลักไป พระสรรพสิทธิ์ออกติดตามโดยมีม้าวิเศษที่นรเชษฐดาบสเนรมิตให้เป็นพาหนะ พระสรรพสิทธิ์ทำสงครามกับกาลจักร และใช้ศิลปะวิเศษเรียกดวงจิต
วัตถุประสงค์
ผู้เรียบเรียง
เอกสารอ้างอิง
ปรมานุชิตชิโนรส, สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระ. สรรพสิทธิ์คำฉันท์. พระนคร : กรมศิลปากร, 2511.
คำสำคัญ
ปัญญาสชาดก , ชาดก , สรรพสิทธิชาดก , อุรภินท์ , เสวยพระชาติ , นางสุพรรณโสภา , ไม่ตรัสกับชาย , พระสรรพสิทธิ์ , อลิกนคร , พระเจ้าวิชัย , พระนางอุบล , พระนางโกสุม , พระเจ้าอุศุภราช , เมืองศิริพัชร , เล่านิทาน