ลิลิตหิโตปเทศเป็นนิทานซ้อนนิทาน นิทานนำเรื่องเล่าว่า พระเจ้าสุทรรศน์ทรงวิตกเรื่องพระราชโอรสไม่สนพระทัยศึกษาราชศาสตร์ พราหมณ์ชรานามว่าวิษณุศรมันซึ่งเป็นผู้ชำนาญศาสตร์ต่างๆ จึงอาสาถวายความรู้พระโอรส พราหมณ์วิษณุศรมันเล่านิทานเรื่องมิตรลาภ ซึ่งเป็นเรื่องของหนู นกพิราบและกา ดังนี้
เช้าวันหนึ่งกาชื่อลฆุปัตนะซึ่งอาศัยอยู่ที่ต้นงิ้วริมฝั่งแม่น้ำโคธาวรีเห็นนายพรานนกโปรยอาหารและขึงตาข่ายดักนก พญานกพิราบชื่อจิตรคีวะนำบริวารออกหาอาหาร บริวารนกอยากกินปลายข้าวที่นายพรานโปรยไว้ พญานกเตือนบริวารโดยเล่านิทานเรื่อง “เสือแก่กับคนเดินทาง” ซึ่งกล่าวถึงเสือแก่หลอกให้คนเดินทางไปเก็บกำไลทองในบ่อโคลน แล้วเสือแก่ก็กินคนเดินทาง บริวารนกไม่ฟังคำของพญานกจึงพากันติดตาข่ายทั้งฝูง พญานกให้นกรวมพลังกันบินขึ้นฟ้าและพาฝูงนกไปพบพญาหนูหิรัณยกะ พญาหนูช่วยกัดตาข่ายให้ กาลฆุปัตนะเห็นประโยชน์ของการผูกมิตรจึงขอเป็นมิตรกับหนูบ้าง แต่หนูไม่อยากเป็นมิตรกับกาลฆุปัตนะ กาลฆุปัตนะจึงเล่าเรื่อง “กวางกับสุนัขจิ้งจอก” ซึ่งกล่าวถึงสุนัขจิ้งจอกที่แสร้งผูกมิตรกับกวางเพื่อจะหลอกกินกวาง กาในนิทานซึ่งเป็นเพื่อนกับกวางจึงเตือนสติกวาง โดยเล่าเรื่อง “แร้งแก่กับแมว” ซึ่งกล่าวถึงแมวตัวหนึ่งมาอาศัยอยู่กับแร้งแก่บนต้นไม้และแอบกินลูกนกบนต้นไม้จนหมด นกทั้งหลายเข้าใจว่าแร้งกินลูกของตนจึงฆ่าแร้งตาย กวางไม่ฟังคำเตือนของกา ยอมเป็นมิตรกับสุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกวางอุบายให้กวางติดบ่วงเพื่อจะได้กินเนื้อกวาง กวางขอให้สุนัขจิ้งจอกช่วย แต่สุนัขจิ้งจอกบ่ายเบี่ยง และรอให้นายพรานมาสังหารกวาง ฝ่ายกาออกตามหากวาง เมื่อเห็นกวางติดบ่วงอยู่ก็วางอุบายให้กวางแกล้งตาย เมื่อนายพรานมาเห็นกวางแกล้งตายก็ปลดบ่วงออก กวางได้โอกาสหนีไป นายพรานโกรธจึงขว้างท่อนไม้เข้าไปที่พุ่มไม้ถูกสุนัขจิ้งจอกตาย
เมื่อฟังนิทานจบ หนูก็ยอมเป็นมิตรกับกา ครั้งหนึ่งกาชวนหนูไปอยู่ในป่าแห่งใหม่ที่มีเต่าชื่อมันทระอาศัยอยู่ หนูได้เป็นสหายกับเต่า วันหนึ่งเต่าถามถึงสาเหตุที่หนูมาอยู่ในป่า หนูเล่าเรื่องของตนว่าเดิมอยู่ในอาศรมของปริพาชกผู้หนึ่ง วันหนึ่งปริพาชกอีกคนหนึ่งมาเยี่ยมสหาย และสังเกตว่าหนูมีแรงมาก น่าจะมีสาเหตุเหมือนนิทานเรื่อง “ชายชรากับภรรยาสาว” ซึ่งกล่าวถึงภรรยาสาวของชายแก่แสร้งกอดสามีที่กลับมาถึงเรือนด้วยอาการดีใจเพื่อจะให้ชายชู้มีโอกาสหนีไป ปริพาชกได้ฟังนิทานก็ตามหนูไปและพบว่าหนูเก็บอาหารไว้เป็นจำนวนมาก จึงช่วยกันนำอาหารนั้นออกมาและไล่หนูไป เต่าปลอบโยนหนูและสอนว่าไม่ควรสะสมอาหารไว้มาก ๆ มิเช่นนั้นจะเหมือนสุนัขจิ้งจอกในนิทาน เต่าเล่านิทานเรื่อง “สุนัขจิ้งจอกโลภ” ซึ่งกล่าวถึงนายพรานคนหนึ่งออกไปล่าสัตว์ได้กวางตัวหนึ่ง ระหว่างเดินทางกลับพบหมูป่าตัวหนึ่งจึงใช้หน้าไม้ยิง ก่อนตายหมูป่าเข้าขวิดพรานตาย ขณะนั้นพรานก็เหยียบงูตัวหนึ่งตายด้วย สุนัขจิ้งจอกมาพบเข้าจึงคิดจะเก็บทั้งซากสัตว์ทั้งหลายและศพนายพรานไว้กินภายหลัง โดยจะกินหน้าไม้ก่อน เมื่อสุนัขจิ้งจอกแทะหน้าไม้ หน้าไม้ก็ดีดกลับมาโดนสุนัขจิ้งจอกตาย
วันหนึ่งกวางจิตรางคะหนีนายพรานมาถึงป่าที่สัตว์ทั้งสามอาศัยอยู่ กวางเล่าว่าพระราชาจะมาล่าสัตว์ ให้สัตว์ต่าง ๆ เตรียมตัว หนูจึงเสนอให้สหายหาวิธีเหมือนเจ้าชายในนิทานที่สามารถนำสะใภ้ของพ่อค้ามาเป็นของตน เรื่องมีอยู่ว่าเจ้าชายตุงคพลพอใจสะใภ้พ่อค้าแต่ไม่อาจนำนางมาได้ หญิงแม่สื่อจึงเสนอว่าควรใช้อุบายให้บุตรพ่อค้านำนางมาถวายเองเหมือนกับนิทานเรื่อง “สุนัขจิ้งจอกลวงช้าง” ซึ่งกล่าวถึงฝูงสุนัขจิ้งจอกหลอกช้างตัวหนึ่งให้ติดหล่มโคลนแล้วรุมกินช้างนั้น หญิงแม่สื่อออกอุบายให้เจ้าชายแกล้งเชิญหญิงสาวมาบูชาในตำหนัก หลังจากพระราชทานทรัพย์จำนวนมากแล้วก็ให้กลับบ้าน บุตรพ่อค้าอยากได้ทรัพย์จึงให้ภรรยาของตนเข้าวังบ้าง เจ้าชายจึงได้นางเป็นบาทจาริกา ระหว่างที่สัตว์ทั้งสี่คือ กา หนู เต่า และกวางกำลังเดินทาง เต่าถูกนายพรานจับได้ สหายทั้งสามจึงให้กวางแกล้งทำเป็นตายนอนขวางทาง นายพรานเห็นกวางก็วางเต่าลง เมื่อหนูกัดเชือกขาดเต่าก็รีบคลานลงน้ำ ครั้นพรานเข้ามาใกล้ กวางก็หนีไป สัตว์ทั้งสี่จึงพ้นภัยและอยู่กันอย่างมีความสุข