หิโตปเทศวัตถุปกรณัมมีเพียงนิทานนำเรื่องและนิทานหลักเรื่องการผูกมิตรเท่านั้น เนื้อเรื่องมีดังนี้
พระเจ้าสุทัสสนะครองเมืองกุสาวดี ทรงได้ฟังพราหมณ์คนหนึ่งกล่าวโศลก จึงทรงปริวิตกว่าพระโอรสของพระองค์ไม่สนพระทัยศึกษา พระองค์ทรงคิดหานักปราชญ์มาถวายความรู้แก่พระโอรส วิสามานบัณฑิตอาสาจะสอนราชศาสตร์ให้พระโอรส โดยการเล่านิทานเรื่อง หนู นกพิราบและกาให้พระโอรสฟัง ดังนี้
วันหนึ่งพญานกพิราบชื่อจิตรคิวา พาบริวารไปหาอาหาร บริวารนกเห็นปลายข้าวที่นายพรานโปรยไว้จึงจะลงไปกิน พญานกห้ามไว้โดยยกนิทานมาเล่าเตือนสติ แต่บริวารนกไม่ฟังและลงไปกินปลายข้าวนั้น พญานกเกรงบริวารจะมีอันตรายจึงยอมลงไปด้วย ฝูงนกทั้งหมดติดตาข่ายที่นายพรานวางไว้ พญานกให้นกทั้งหมดช่วยกันบินขึ้นเพื่อจะได้พ้นภัยจากนายพราน พญานกนำฝูงนกบินไปพร้อมตาข่ายไปหาพญาหนูชื่อหิรัณกะสหายของตน พญาหนูช่วยกัดตาข่ายให้ กาชื่อลขุปัตนะซึ่งเห็นเหตุการณ์โดยตลอด เห็นประโยชน์ของการเป็นมิตรกัน จึงอยากผูกมิตรกับพญาหนูบ้าง พญาหนูไม่อยากเป็นมิตรกับกาจึงยกภาษิตต่างๆ มาอ้าง กาลขุปัตนะยกนิทานมาเล่าเพื่อให้เห็นข้อดีของการผูกมิตร ทำให้พญาหนูยอมเป็นมิตรด้วย วันหนึ่งกาชวนพญาหนูย้ายไปอยู่ป่าคันทะซึ่งมีสหายคือเต่าชื่อมักขระและสมันชื่อสาขาอาศัยอยู่ พญาหนูไปอยู่ป่าคันทะได้เป็นมิตรกับเต่าและสมันและได้ไปมาหาสู่และเล่านิทานให้สหายฟังอยู่เสมอ
วันหนึ่งพญาหนูป่วยหนัก เมื่อใกล้สิ้นใจก็นึกถึงผลบุญที่เคยทำไว้ พญาหนูได้ไปเกิดในสวรรค์ ส่วนสัตว์ทั้งสามอาศัยอยู่ในป่านั้นต่อ วันหนึ่งนายพรานคนหนึ่งดักสมันได้ กาเห็นสมันติดบ่วงก็รีบตามเต่าไปช่วย เต่าพยายามกัดเชือกจนขาดสมันจึงหนีไปได้ แต่เต่าหนีไม่ทันถูกนายพรานจับไว้ได้ กาและสมันจึงหาอุบายช่วยเต่า โดยสมันแกล้งทำขาหักให้นายพรานวางเต่าแล้วไล่ตาม เมื่อนายพรานไปไกลแล้ว กาก็ร้องบอกให้สมันย้อนกลับมาช่วยเต่าไว้ได้ ต่อมากาชวนสหายทั้งสองให้เข้าไปอยู่ในป่าลึกที่มนุษย์ไปไม่ถึง ทั้งสามอยู่กันอย่างสงบสุขตราบจนสิ้นอายุขัยแล้วก็ไปเกิดบนสวรรค์ ตอนท้ายวิสามานบัณฑิตสรุปคติธรรมที่ได้จากนิทานและคติสอนใจต่าง ๆ ถวายพระโอรส