| |   เข้าสู่ระบบ

พระรถเมรี, บทละคร

เนื้อเรื่องย่อ

พรหมจันทร์กับนางพราหมณีเป็นเศรษฐีอยู่ที่เมืองไพศาลี  ต่อมาเกิดอาเพศ  ครอบครัวของเศรษฐียากจนลง  พรหมจันทร์จึงลวงบุตรสาวทั้ง 12 คนไปปล่อยป่า  พวกนางเดินทางไปจนพบนางยักษ์สารตราเจ้าเมืองทานตะวัน (บางสำนวนว่าตะวัน) และได้เป็นธิดาบุญธรรม  ต่อมาพวกนางรู้ว่านางสารตราเป็นยักษ์จึงชวนกันหนี  แล้วได้อภิเษกกับท้าวรถสิทธิ์ (บางสำนวนว่ารถยสิทธิ์ หรือยาสิทธิ์) เจ้าเมืองขีดขิน  นางยักษ์ตามหาพวกนางจนพบ  ร่ายมนตร์ให้ท้าวรถสิทธิ์หลงใหล แล้วทำอุบายว่าป่วย ขอให้ควักดวงตาของนางสิบสองมาเป็นโอสถ แล้วขับพวกนางซึ่งทรงครรภ์อยู่ออกจากเมืองไป
 
นางเภาน้องสุดท้องในกลุ่มนางสิบสองประสูติโอรสชื่อรถเสน  เมื่อเจริญวัยรถเสนได้พบพระบิดา  นางสารตราต้องการกำจัดรถเสนจึงให้เป็นผู้ถือสารไปขอหมากงั่วและหมากนาวที่เมืองทานตะวัน  ระหว่างทางฤๅษีกุศลช่วยแปลงสารให้รถเสนได้อภิเษกกับนางเมรีธิดาบุญธรรมของนางสารตรา  หลังจากรถเสนเก็บผลหมากงั่วและหมากนาวได้แล้วก็มอมเหล้านางเมรี  ขโมยของวิเศษ  ศรกำพต  พร้อมทั้งห่อดวงตานางสิบสองหนีไป  รถเสนต่อสู้กับนางยักษ์สารตราแล้วสังหารนางได้  
 
รถเสนกลับไปหานางเมรี  เมื่อพบว่านางตายแล้วก็เสียใจจนสลบไป (บางสำนวนว่านางเมรียังไม่ตาย  เมื่อรถเสนกลับไปหา นางเมรีบอกให้รถเสนไปอภิเษกกับนางทัศนารีขนิษฐาของนางซึ่งอยู่ที่เมืองกำพุช หรือสังกัศแล้วนางจึงสิ้นใจ)  ฝ่ายนางเมรีซึ่งไปเกิดเป็นเทพบุตรได้ช่วยให้รถเสนฟื้น แล้วบอกให้ไปครองคู่กับทัศนารีฝาแฝดของนางที่เมืองกำพุช (บางสำนวนว่า สังกัศ หรือสังกัด) ของท้าวประทุมราช (บางสำนวนว่าสันนุราช)  รถเสนจึงได้นางทัศนารีเป็นชายา  กระทั่งนางวรทาศรีพี่เลี้ยงของนางทัศนารีไปทูลฟ้องท้าวประทุมราช  รถเสนจึงถูกจับขังไว้  ม้าทรงของรถเสนไปแจ้งแก่พระฤๅษี  พระฤๅษีจึงเดินทางมาช่วยรถเสนไว้ได้
 
บทละครเรื่องพระรถเมรีมีการใช้ภาพพจน์ประเภทการกล่าวอ้างถึงจากวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง เช่น นางมโนห์รา  พระลอ  อุณรุท  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องรามเกียรติ์ ทำให้รู้ที่มาของศรกำพตอาวุธวิเศษประจำเมืองทานตะวันว่าเป็นศรพรหมาสตร์ของพระรามแห่งกรุงอยุธยา และหลังจากพระรามสิ้นพระชนม์แล้ว พระโอรสและพระนัดดาของพระรามได้สืบราชสมบัติต่อกันมาอย่างราบรื่น เพราะเหล่าศัตรูเกรงกลัวฤทธิ์ศรพรหมาสตร์  ครั้นเวลาผ่านไปวงศ์ของพระนารายณ์และเหล่าพานรินทร์เสื่อมถอย  ท้าวโกมิตเจ้าเมืองทานตะวันจึงไปลักศรพรหมมาสตร์มาแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นศรกำพต  ศรนี้สืบทอดต่อกันมาจนท้ายที่สุดอยู่ในความครอบครองของนางยักษ์สารตรา  กล่าวได้ว่าบทละครเรื่องพระรถเมรีนอกจากจะมีเนื้อเรื่องสนุกสนานชวนอ่านแล้ว ยังนำวรรณคดีเรื่องอื่นๆ มาผสมผสานและเชื่อมโยงเข้ากับเนื้อหาของเรื่องได้อย่างลงตัวอีกด้วย

วัตถุประสงค์

ผู้เรียบเรียง

เอกสารอ้างอิง

กรมศิลปากร. “บทละครเรื่องพระรถเมรี” ใน ประชุมเรื่องพระรถ. กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์, 2552.

คำสำคัญ

หมายเหตุ

บทละครเรื่องพระรถเมรีเป็นวรรณคดีที่ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่งและไม่ปรากฏหลักฐานว่าแต่งในสมัยใด แต่มีผู้สันนิษฐานว่าเรื่องพระรถเมรีคงเป็นที่รู้จักแพร่หลายมานานแล้วดังปรากฏเป็นคำประพันธ์รูปแบบต่างๆ เช่น กาพย์ขับไม้ กลอนอ่าน กลอนนิราศ คำฉันท์ ฯลฯ ในส่วนของบทละครสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าคงจะมีมาตั้งแต่ก่อนสมัยรัชกาลที่ 2 แต่ไม่ทรงแน่พระทัยว่าจะเป็นละครในสมัยอยุธยา ธนบุรี หรือสมัยรัชกาลที่ 1

นามานุกรมล่าสุด

Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory