ดารา บุตรีของพระวิสูตร์พานิชรักอยู่กับหลวงสิทธิ์ศุภการ แต่เมื่อทางราชการส่งหลวงสิทธิ์ศุภการ ไปศึกษาที่ยุโรป พระวิสูตร์พานิชก็บังคับดาราให้แต่งงานกับหลวงวิศาลวัฒนากร เพราะพระวิสูตร์พานิชพอใจฐานะทางการเงินของหลวงวิศาลวัฒนากร ดาราไม่มีความสุขเพราะหลวงวิศาลวัฒนากร เป็นคนเจ้าชู้ มีภรรยาเก็บและยังพัวพันกับผู้หญิงอีกหลายคน  หลวงวิศาลวัฒนากร พอใจนางสาวพิมพา  ศุภนาม น้องสาวของหลวงสิทธิ์ศุภการ และปรารถนาจะแต่งงานด้วย จึงปรึกษากับหลวงประดิษฐ์ประชาธิกรณ์ ทนายความและวางอุบายที่จะจับผิดดาราเพื่อหาเหตุหย่าร้าง 

หลวงวิศาลวัฒนากรหาเรื่องดาราที่ร้านในงานฤดูหนาว ทำให้ดาราไม่สามารถทนอยู่ด้วยอีก จึงขอให้หลวงสิทธิ์ศุภการพาตนไปอยู่ด้วย แต่พระเทพราชเสวีเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะดารายังไม่ได้หย่ากับหลวงวิศาลวัฒนากร พระเทพราชเสวี จึงให้ดาราไปพักอยู่กับนางเกด  มิตรจิต ป้าของตน หลวงวิศาลวัฒนากร ผิดหวังที่ไม่สามารถจับผิดดาราในด้านความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับหลวงสิทธิ์ศุภการได้ แต่ก็ยินดีที่เรื่องเป็นเช่นนี้เพราะแท้จริงแล้วตนก็ไม่ได้อยากจะฟ้องร้องหลวงสิทธิ์ศุภการ ซึ่งเป็นพี่ชายของพิมพา  หลวงวิศาลวัฒนากร จึงฟ้องร้องว่าพระเทพราชเสวีเป็นชู้กับดารา แต่ศาลยกฟ้องเพราะนางเกดให้การว่าดาราอยู่กับตน

ในที่สุดดารากับหลวงวิศาลวัฒนากร ก็หย่ากัน ดาราตัดสินใจไปพักอยู่กับขุนประกาศกิจการผู้เป็นน้าก่อนที่จะแต่งงานกับหลวงสิทธิ์ศุภการ ส่วนหลวงวิศาลวัฒนากร ก็ต้องผิดหวังจากการขอพิมพาแต่งงาน เพราะพิมพารักอยู่กับพระเทพราชเสวี

แสดงละคร 

กัญญรัตน์ เวชชศาสตร์ 

วรรณคดีไทยสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว , ร.6 , กัญญรัตน์ เวชชศาสตร์ , บทละคร 

เป็นวรรณคดีบทละคร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ ใช้พระนามแฝงว่า ศรีอยุธยา ไม่ปรากฏว่าเริ่มทรงพระราชนิพนธ์เมื่อใด แต่ทรงพระราชนิพนธ์จบเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2462 จัดแสดงครั้งแรกที่พระราชวังพญาไท เมื่อวันที่ 24-27 ธันวาคม พ.ศ. 2463 เพื่อเก็บเงินซื้อปืนให้เสือป่า