TLD-004-070
จุลธนุคคหะบัณฑิต, ลิลิตสุภาพ
พ.ศ. 2471
ลิลิต
ร่ายสุภาพ , โคลงสี่สุภาพ
พราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อจุลธนุคคหะบัณฑิตเรียนศิลปศาสตร์ที่เมืองตักศิลาจนสำเร็จวิชายิงธนู เมื่อจะเดินทางกลับบ้านเมือง พระอาจารย์ยกธิดาให้ ขณะเดินทางจุลธนุคคหะบัณฑิตพบกลุ่มโจร 50 คนเข้าชิงทรัพย์ เขาต่อสู้กับโจรและสังหารสมุนโจรไป 49 คน เหลือแต่นายโจรเพราะลูกธนูหมดพอดี ทั้งสองจึงต่อสู้กัน จุลธนุคคหะบัณฑิตสั่งให้ภรรยาส่งดาบให้ แต่ภรรยาเกิดมีจิตปฏิพัทธ์นายโจร จึงส่งดาบให้นายโจรและส่งฝักดาบให้สามี นายโจรจึงตัดศีรษะจุลธนุคคหะบัณฑิต แล้วพานางไป ต่อมานายโจรคิดได้ว่า “หญิงจัญไรเช่นนี้ ใครพบควรหลบลี้ หลีกให้ไกลตา” จึงคิดจะทิ้งนางไปเสีย ก่อนที่นางจะคิดฆ่าตน
เมื่อถึงแม่น้ำใหญ่ นายโจรหลอกเอาอาภรณ์มีค่าของนางว่ายข้ามแม่น้ำไปก่อนแล้วหนีไป นางคร่ำครวญอยู่ผู้เดียวอย่างน่าเวทนา ท้าวโกสีย์โพธิสัตว์คิดจะสั่งสอนให้นางเกิดความละอาย จึงให้มาตลีเทพบุตรแปลงเป็นปลา ปัญจสิขรเทพบุตรแปลงเป็นนก พระองค์เองแปลงเป็นสุนัขจิ้งจอกคาบก้อนเนื้อมา แล้วให้ปลากระโดดขึ้นจากน้ำตรงหน้าสุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกทิ้งชิ้นเนื้อไปคาบปลา แต่ปลากระโดดลงน้ำ แล้วนกบินมาโฉบเอาชิ้นเนื้อบินไป สุนัขจิ้งจอกจึงอดได้ทั้งเนื้อและปลา นางเห็นเช่นนั้นก็เย้ยหยันสุนัขจิ้งจอกว่าโง่และโลภมาก สุนัขจิ้งจอกจำแลงจึงกล่าวแก่นางว่า นางเห็นแต่โทษผู้อื่น แต่ไม่เห็นโทษหนักของตนเอง นางต่างหากที่มีจิตใจโลภ ไม่พอใจในสิ่งที่มี จึงสูญเสียทั้งสามีที่มีชาติตระกูลและนายโจรชายชู้ และต้องมาร้องไห้น่าเวทนาเช่นนี้ นางได้ฟังเริ่มอดสูและกล่าวว่า ถ้ามีสามีใหม่จะซื่อสัตย์ต่อสามี ท้าวโกสีย์ไม่เชื่อคำของนาง บริภาษนางว่า หญิงที่จิตมัวเมามักมากเช่นนางนี้ ยากนักที่จะละเลิกได้เปรียบเหมือนเพชรเมื่อร้าวแล้ว จักทำให้คืนสภาพดีดังเดิมนั้นยากยิ่ง
ชิต บุรทัต. กวีนิพนธ์บางเรื่องของ ชิต บุรทัต. กรุงเทพฯ: กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์, 2521.
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory