เทวดาลูศิแฟร์กับเทพบริวารต้องสายฟ้าของพระบุตร (พระเยซูคริสต์) ตกจากสวรรค์ ลูศิแฟร์กลายเป็นซาตาน ส่วนเทพบริวารเป็นปิศาจ ด้วยความโกรธแค้นซาตานจึงตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเป็นเจ้า โดยมีบีเอลซีบับ (Beelzebub) หรือเจ้าแห่งปิศาจช่วยปลุกปิศาจทั้งหลายมาเป็นพวก ซาตานให้มัมมอน (Mammon) โลภมารเป็นแม่งานสร้างเมืองให้ซาตานกับมารชั้นรองอาศัย ส่วนมารเล็กมารน้อย ซึ่งเรียกว่าวามะมาร (Pigmy) ให้อาศัยอยู่รอบนอก
ซาตานไปล่อลวงนางปาปและมฤตยูมารผู้เฝ้าประตูนรกให้เปิดประตูให้ แล้วชักชวนกลิมาร (Chaos) และอันธการมาร (Darkness) ให้ร่วมกันต่อสู้กับพระเป็นเจ้า พระเป็นเจ้ารู้ว่าซาตานจะล่อลวงมนุษย์ให้ทำบาป จึงเรียกประชุมทวยเทพ พระบุตรอาสาอวตารไปไถ่บาปให้มนุษย์
ซาตานแปลงเป็นนกกาน้ำเข้าไปยังสวนปรไทส (Paradise) ที่อยู่ของอาดัมและอาวาในมนุษยโลก แล้วล่อลวงให้ทั้งสองกินผลไม้บนต้นปรไทสซึ่งพระเป็นเจ้าห้ามไว้ เทพอิถุริเอล (Ithuriel) กับเทพเซโฝน (Zephon) ตามซาตานไปถึงที่พักของอาดัมและอาวา เห็นคางคกตัวหนึ่งกำลังกระซิบบอกอาวาให้ทำผิดเทพโองการ อิถุริเอลจึงเอาหอกกายสิทธิ์แทง คางคกนั้นกลับร่างเป็นซาตานและถูกจับได้ ขณะถูกคุมตัวซานตานหลบหนีไปได้ พระเป็นเจ้าให้ระฝาเอล (Raphael) ไปเตือนอาดัมเรื่องที่ซาตานจะมาล่อลวง ระฝาเอลเล่าเรื่องสวรรค์ให้อาดัมฟัง ตั้งแต่พระเป็นเจ้าสร้างพระบุตรไปจนถึงลูศิแฟร์เกลี้ยกล่อมเหล่าเทวดาให้เป็นกบฏต่อพระเป็นเจ้า และพระบุตรแผลงสายฟ้าถูกลูศิแฟร์และเทพบริวารตกลงโลกันต์
เมื่อเล่าจบระฝาเอลก็เตือนอาดัมไม่ให้หลงเชื่อซาตาน แล้วบอกว่าเมื่อซาตานชักชวนเหล่าเทพไปเป็นพวก ทำให้พลสวรรค์ลดลง พระเป็นเจ้าจึงสร้างมนุษย์มาทดแทน เพื่อคัดเลือกให้เป็นเทวดาในภายหลัง วันแรกพระเป็นเจ้าบันดาลให้เกิดจักรวาลและแสงสว่าง วันที่สองทรงสร้างผืนฟ้า วันที่สามทรงแยกน้ำออกจากแผ่นดิน วันที่สี่บันดาลให้เกิดพืชพรรณพฤกษชาติ สร้างดวงตะวัน ดวงเดือน และดวงดาว แยกความมืดออกจากความสว่าง วันที่ห้าทรงสร้างนกและปลา วันที่หกทรงเนรมิตสัตว์ต่างๆ และปั้นดินให้มีรูปกายเหมือนพระองค์ ให้ชีวิตและดวงจิตเรียกว่าอาดัม จากนั้นสร้างมนุษย์ผู้หญิงจากชายโครงซี่หนึ่งของอาดัมให้เป็นคู่ ชื่ออาวา และประทานพรให้ทั้งสองสืบพันธุ์เพื่อสร้างความสมบูรณ์ต่อไป จากนั้นประทานสวนปรไทสให้เป็นที่อาศัย และให้เสรีภาพในการเสพสุขจากทุกสิ่งที่พระเป็นเจ้าสร้าง เว้นแต่ผลไม้ที่เกิดจากต้นรู้ดีรู้ชั่ว หากใครกินจะต้องตาย หลังเสร็จสิ้นการสร้างโลกและสิ่งประจำโลกแล้ว พระเป็นเจ้าก็คืนเทวสถานในวันที่เจ็ด
ต่อมาซาตานเข้าสิงงูแล้วไปล่อลวงอาวาให้กินผลไม้ต้องห้าม เมื่ออาดัมรู้ว่าอาวาทำผิด ก็คิดจะขอร่วมทุกข์กับอาวา จึงกินผลไม้ต้องห้ามนั้นด้วย พระเป็นเจ้าส่งพระบุตรไปลงโทษให้อาวาต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่ให้กำเนิดบุตร และต้องอยู่ในบัญชาของสามี ส่วนอาดัมต้องเหนื่อยยากในการหาอาหาร แล้วประทานหนังสัตว์ให้เป็นเครื่องนุ่งห่ม
ฝ่ายมฤตยูมารและนางปาปเมื่อเปิดประตูให้ซาตานแล้วก็ถางทางจากโลกมนุษย์ให้มานรกได้สะดวกขึ้น ซาตานกลับนครมารเล่าความสำเร็จให้เหล่ามารฟัง จากนั้นบริวารทั้งหมดก็กลายร่างเป็นงู มีซาตานเป็นงูใหญ่นำทางไปยังพุ่มไม้หนึ่งในนรกแล้วเลื้อยไปกินผลสาลี่แห่งเมืองโสดมที่สวยงามแต่เนื้อในเป็นขี้เถ้ามีรสขม เป็นการถูกลงโทษที่ไปล่อลวงอาวาให้ทำผิด ทุกปีเมื่อครบรอบวันที่ไปล่อลวงอาวา ซาตานและบริวารจะต้องโทษเช่นนี้
ฝ่ายมฤตยูมารและนางปาปพากันไปทำลายพืชพรรณในสวนปรไทส พระเป็นเจ้ากล่าวว่าหากมนุษย์ไม่ทำผิด มารก็ไม่มีอำนาจ และอำนาจเช่นนี้จะอยู่จนกว่าพระบุตรจะลงไปไถ่บาปให้มนุษย์ นับแต่นั้นพระเป็นเจ้าก็บันดาลให้ดวงตะวันเคลื่อนที่ ให้โลกมีร้อนหนาว ดาวนพเคราะห์ก็ส่องแสงประจำเคราะห์ของมนุษย์ บังเกิดลมพายุร้ายเป็นครั้งคราว และเกิดความแตกสามัคคีเกลียดชังกันในหมู่สัตว์
ฝ่ายอาดัมและอาวาอ้อนวอนขออภัยโทษ พระเป็นเจ้าตรัสว่าจะยกโทษให้เมื่อทั้งสองสำนึกผิดอย่างจริงใจ แล้วบัญชาให้เทพไมเกิล (Michael) และเซอรับ (Cherub) ไล่ทั้งสองออกจากสวนปรไทส และป้องกันไม่ให้ซาตานลอบเข้ามากินผลไม้ได้ ต่อจากนั้นก็พาทั้งสองออกจากสวนปรไทสไปหาที่อาศัย เทพไมเกิลเล่าเรื่องมนุษยชาติภายหน้าเพื่อให้อาดัมเห็นว่ามนุษย์จะรอดพ้นจากบาปได้ด้วยเลือดเนื้อของพระองค์ที่จะลงไปไถ่บาปแก่มนุษย์ และบอกอาดัมให้บำเพ็ญตน เป็นผู้มีความอดทน มีใจบริสุทธิ์ และนอบน้อมต่อพระเป็นเจ้า
เสฐียรโกเศศ และนาคะประทีป [พระยาอนุมานราชธน และพระสารประเสริฐ]. “ซาตาน ภาค 1.” ไทยเขษม 3, 30 (15 กุมภาพันธ์ 2469): 1654-1666.
เสฐียรโกเศศ และนาคะประทีป [พระยาอนุมานราชธน และพระสารประเสริฐ]. “ซาตาน ภาค 1.” ไทยเขษม 3, 31 (15 มีนาคม 2469): 1790-1805.