สุลต่านอาชาพักต์ทรงหนีศึกออกจากเมืองไปกับชายา ระหว่างทางชายาประสูติโอรสแต่ไม่สามารถพาพระกุมารไปด้วยได้เพราะทางทุรกันดารจึงห่อผ้าวางทิ้งไว้ มีผู้นำไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ต่อมาสุลต่านทรงชิงเมืองคืนจากศัตรูได้ และกลับมาครองราชย์ดังเดิม
สุลต่านทรงรับเลี้ยงเด็กชายผู้หนึ่งซึ่งมีผู้นำมาถวาย เมื่อเด็กชายเติบโตขึ้นและร่ำเรียนวิชาจนชำนาญ สุลต่านก็ทรงตั้งให้เป็นพระยาคลัง มนตรีทั้งสิบคนของสุลต่านเห็นว่าพระองค์โปรดพระยาคลังมากก็ริษยา วันหนึ่งพระยาคลังดื่มเหล้าองุ่นจนไม่ได้สติ เผลอเดินไปถึงเขตพระราชฐานชั้นในและหลับอยู่ที่นั่น สุลต่านทรงพบเข้าก็กริ้ว สั่งให้ขังพระยาคลังไว้ที่หนึ่ง พระชายาอีกที่หนึ่ง มนตรีคนที่หนึ่งสบโอกาสที่จะกำจัดพระยาคลังจึงแต่งเรื่องว่าพระยาคลังมีใจเสน่หาพระชายาจึงลอบเข้ามาหา สุลต่านจึงทรงสั่งให้ประหารพระยาคลัง พระยาคลังทูลว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะคราวเคราะห์ของเขา เช่นเดียวกับพ่อค้าผู้ประสบเคราะห์อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็ถูกควักนัยน์ตาเป็นการลงโทษ แล้วพระยาคลังก็เล่านิทานเรื่องที่ 1 พ่อค้าเคราะห์ร้าย
สุลต่านได้ฟังนิทานก็บรรเทาพิโรธ สั่งให้คุมตัวพระยาคลังไปขังไว้ก่อน แต่มนตรีคนที่สองทูลเตือนว่าพระยาคลังทำผิดร้ายแรง สุลต่านจึงทรงให้นำตัวพระยาคลังเข้ามา พระยาคลังทูลว่าการตัดสินสิ่งใดควรกระทำอย่างไตร่ตรองรอบคอบ ดังเช่นสุลต่านผู้เกือบจะสั่งสังหารน้องของพระองค์เอง แต่เมื่อทรงไต่สวนก็รู้ความจริงเสียก่อน แล้วพระยาคลังก็เล่านิทานเรื่องที่ 2 พาณิชกับบุตร
สุลต่านได้ฟังก็ให้นำตัวพระยาคลังไปขังไว้ก่อน วันต่อมามนตรีคนที่สามทูลเตือนให้ลงโทษพระยาคลัง เมื่อสุลต่านให้เบิกตัวเข้าเฝ้า พระยาคลังทูลว่าผู้ใดทำผิดผลกรรมก็ย่อมตามสนองเอง ดังเช่นของอาบู ซาบีระผู้เผชิญอุปสรรคด้วยความอดทน จนได้รับความสุขในที่สุด แล้วพระยาคลังก็เล่านิทานเรื่องที่ 3 อาบู ซาบีระ
สุลต่านได้ฟังก็คลายพิโรธ ให้ขังพระยาคลังต่อไป วันต่อมามนตรีคนที่สี่ทูลเตือนให้ลงอาญา พระยาคลังทูลว่าผู้ที่ใจเร็วด่วนได้ อาจประสบความเดือดร้อน ดังเช่นเจ้าชายบีห์ซาทผู้ไม่มีความอดทน ทำให้ต้องประสบเคราะห์จนพระเนตรบอด แล้วพระยาคลังก็เล่านิทานเรื่องที่ 4 เจ้าชายบีห์ซาท
สุลต่านได้ฟังนิทานก็เห็นจริงจึงให้นำตัวพระยาคลังไปขังไว้ วันต่อมามนตรีคนที่ห้าทูลเตือนให้ประหารชีวิตพระยาคลังเสีย พระยาคลังทูลว่าผู้ใดคิดร้ายต่อผู้อื่น ก็ขอให้อันตรายตกแก่ผู้นั้นเองดังเช่นสุลต่านทัทบินและวาซีร (มนตรี) ผู้ถูกลงโทษเพราะเคยทำร้ายหญิงผู้หนึ่ง แล้วพระยาคลังก็เล่านิทานเรื่องที่ 5 สุลต่านทัทบินกับวาซีร
สุลต่านได้ฟังก็รวนเรพระทัย ให้นำตัวพระยาคลังไปขังไว้ วันต่อมามนตรีคนที่หกทูลเตือนให้ลงโทษ พระยาคลังทูลว่าผู้ใดยึดถือพระผู้เป็นเจ้าเป็นที่พึ่ง ย่อมสมปรารถนาเช่นเดียวกับสุลต่านพักต์สมัน แล้วพระยาคลังก็เล่านิทานเรื่องที่ 6 สุลต่านพักต์สมัน
สุลต่านได้ฟังก็คลายพิโรธ ให้นำตัวพระยาคลังไปขังไว้ วันต่อมามนตรีคนที่เจ็ดทูลเตือนให้ประหารพระยาคลัง พระยาคลังทูลว่าผู้ที่อภัยโทษให้แก่ผู้อื่น ย่อมมีความยินดีเบิกบานใจดังเช่นสุลต่านพิการตะผู้ถูกมหาดเล็กผู้หนึ่งยิงธนูพลาดไปถูกพระกรรณขาด แต่ก็ทรงอภัยโทษให้ แล้วพระยาคลังก็เล่านิทานเรื่องที่ 7 สุลต่านพิการตะ
สุลต่านได้ฟังก็พระทัยอ่อน สั่งให้ขังพระยาคลังไว้ต่อไป วันต่อมามนตรีทั้งสิบคนพากันไปเฝ้าสุลต่านและทูลเร่งให้ประหารชีวิตพระยาคลัง พระยาคลังทูลว่าถ้าสุลต่านประหารเขา อาจจะต้องทรงโทมนัสภายหลังเช่นเดียวกับสุลต่านไอแลนซา ผู้สั่งประหารผู้สำเร็จราชการโดยมิทันได้สอบสวน แล้วพระยาคลังก็เล่านิทานเรื่องที่ 8 สุลต่านไอแลนซากับพ่อค้าตัมมัม
สุลต่านได้ฟังแล้วไม่สบายพระทัย สั่งให้ขังพระยาคลังไว้ก่อน วันต่อมามนตรีทั้งสิบพากันไปเฝ้าพระชายาและทูลยุยงให้นางเร่งสุลต่านให้ลงโทษพระยาคลัง พระยาคลังกล่าวแก่มนตรีว่าความตายไม่ได้อยู่ในอำนาจของมนตรี ไม่ว่าจะมีแรงริษยาเพียงใดก็ตาม แต่อยู่ในอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า ดังเช่นสุลต่านอิบราฮิมผู้พยายามกำจัดโอรสของพระองค์เองเพื่อมิให้กลับมาสังหารพระองค์ตามคำทำนาย แต่ในที่สุดก็สิ้นพระชนม์ด้วยน้ำมือโอรสผู้กลายเป็นโจร แล้วพระยาคลังก็เล่านิทานเรื่องที่ 9 สุลต่านอิบราฮิมกับโอรส
สุลต่านได้ฟังก็เห็นจริงตามคำพระยาคลัง จึงสั่งให้ขังพระยาคลังไว้ก่อน วันต่อมาเป็นวันมงคล ชาวเมืองพากันมาเฝ้าถวายพระพร มนตรีสบโอกาสจึงยุยงชาวเมืองให้ทูลเตือนให้ลงโทษพระยาคลัง พระยาคลังทูลว่าทุกอย่างเป็นไปตามลิขิตของพระเจ้าเช่นเดียวกับสุลต่านสุเลมันชาห์ซึ่งเกือบจะสั่งประหารผู้ที่ไม่มีความผิด แล้วพระยาคลังก็เล่านิทานเรื่องที่ 10 สุลต่านสุเลมันชาห์
สุลต่านฟังแล้วก็สั่งให้นำตัวพระยาคลังไปขังไว้ก่อน ตั้งพระทัยว่าจะประหารเสียในวันรุ่งขึ้น ครั้นถึงเวลาประหาร พระยาคลังก็กล่าวแก่มนตรีทั้งสิบว่าทุกอย่างเป็นไปตามลิขิตของพระเจ้าเช่นเดียวกับชีวิตของนักโทษผู้หนึ่ง แล้วพระยาคลังก็เล่านิทานเรื่องที่ 11 นักโทษซึ่งพระเจ้าช่วย
เมื่อเล่านิทานจบแล้ว พระยาคลังก็ถูกนำตัวเข้าที่ประหาร ขณะนั้นชายคนหนึ่งแทรกฝูงชนเข้ามา เมื่อเห็นหน้าพระยาคลัง ชายผู้นั้นก็ร้องไห้แล้วป่าวประกาศว่าชายหนุ่ม (พระยาคลัง) คือผู้ที่เขาพบทิ้งอยู่ที่เชิงเขาและเก็บไปเลี้ยงไว้แต่ต้องพลัดพรากจากกัน สุลต่านอาซาพักต์ให้สืบสวนจึงรู้ว่าพระยาคลังคือโอรสของพระองค์ที่ทรงละไว้เมื่อครั้งหนีภัยข้าศึก