สันนิบาตผู้รักชาติแห่งโคโรเนียประกอบด้วยสมาชิกซึ่งมีทั้งทหารและพลเรือน มีแผนจะล้มล้างรัฐบาลที่ประกอบด้วยนายทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวยิว หว่านเงินซื้อเสียงจนได้เสียงส่วนใหญ่ ทำให้ดำเนินนโยบายเอื้อประโยชน์แก่นายทุน สมาชิกสันนิบาตฯ นัดประชุมกันที่ห้องลับเพื่อลงมติว่าจะล้มกษัตริย์เพื่อเปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐด้วยหรือไม่ Carol Cassio ประธานสันนิบาตโน้มน้าว Joseph Zenobia เลขาธิการพรรคผู้ยึดมั่นในทฤษฎีและอุดมการณ์ให้เห็นว่า ระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญเป็นสถาบันที่พึงรักษาไว้เพราะกษัตริย์ยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน โดยเฉพาะในยามเกิดวิกฤตการณ์ในชาติ กษัตริย์พระองค์นี้ คือพระเจ้า Victor ที่ 6 ก็มิได้ทรงเห็นดีเห็นงามกับพฤติกรรมชั่วร้ายของรัฐบาล อีกทั้งฝ่ายคนงานก็มีพวกที่หัวรุนแรง กระทำการผิดกฎหมาย ปล้นและทำลายทรัพย์สินจนต้องมีการปราบปรามลงโทษถึงขั้นประหารชีวิต Zenobia ก็ยอมสัญญาว่าจะเป็นกลาง ไม่ลงคะแนนไปทางใดทางหนึ่ง สมาชิกคนหนึ่ง คือ พันโท Francis Martio ทหารรักษาพระองค์ ขอนำเพื่อนมาเข้าร่วมประชุมด้วย คือ พันโท Casaregis ซึ่งที่แท้คือพระเจ้า Victor ปลอมพระองค์มา สมาชิกอีกคนหนึ่ง คือ Coriolo มาร่วมประชุมไม่ได้เพราะติดการประชุมสหภาพแรงงานกับ Levi คนยิวผู้เป็นประธานสหภาพแรงงานซึ่งถูกสงสัยว่าจะเป็นพวกบอลเชวิก การประชุมเริ่มขึ้นเพื่อพิจารณาข้อที่ว่า การปฏิรูปประเทศนั้นควรเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐหรือไม่ สมาชิกอภิปรายกันหลายคน Cassio ประธานสันนิบาต เปรียบเทียบว่าเหมือนการกำจัดโรคร้ายในกาย หากใช้ยาแรงเกินไปจะทำให้ร่างกายอ่อนแอจนหมดภูมิต้านทาน อาจถูกโรคร้ายอย่างใหม่คุกคามจนต้องถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้ โรคร้ายที่ว่าคือลัทธิบอลเชวิก พันโท Martio พูดในฐานะทหารว่า กษัตริย์เป็นประดุจธงชัยแห่งกองทัพ เป็นขวัญกำลังใจ แต่ประธานาธิบดีไม่ใช่เช่นนั้น เขาชี้ให้เห็นว่าความเดือดร้อนที่ประเทศเผชิญอยู่เกิดจากนักการเมือง เช่นรัฐมนตรีที่ใช้เงินซื้อตำแหน่ง สมาชิกอีกคนหนึ่งคือ Sammarco แสดงความเห็นแย้งว่าทหารก็เป็นพลเมืองต้องทำเพื่อชาติเช่นกัน ถ้าถึงเวลาต้องเปลี่ยนผู้ปกครองประเทศก็ต้องทำ สมาชิกอีกหลายคนที่ไม่ชอบกษัตริย์เพราะไม่สนองความต้องการส่วนตน Emil Basilion ชี้ว่าพระเจ้า Victor ไม่อาจทรงทำอย่างที่มีพระประสงค์ได้ ปัญหาอยู่ที่นักการเมืองซึ่งรับเอาความดีความชอบไปเมื่อนโยบายใดเป็นผลดี แต่เมื่อเกิดปัญหาก็โทษว่าเป็นความผิดของกษัตริย์ พันโท Casaregis (พระเจ้า Victor) สนับสนุนพันโท Martio และ Basilion ว่ากษัตริย์ทรงประสบอุปสรรคในการดำเนินนโยบายและพระราชดำริต่างๆ เพราะอำนาจอยู่ในมือของคณะรัฐมนตรีและสภา เมื่อรัฐบาลเสนอร่างพระราชบัญญัติรวมรถไฟ ถนน คลอง ไปรษณีย์ โทรเลข และการคมนาคมทางอากาศไว้ในอำนาจของคณะกรรมการรถไฟชุดเดียว ก็ทรงยับยั้งโดยไม่ทรงลงพระนาม ผลก็คือรัฐบาลกำลังจะออกประกาศว่าพระเจ้า Victor เสียพระจริต รัฐบาลจะขอให้ทรงสละราชสมบัติ และจะแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการคือ เจ้าชาย Montarosa ผู้โหดร้ายและฝักฝ่ายนายทุนชาวยิว ชายาของเจ้าชายคือ พี่สาวของ Sammarco นั่นเอง Sammarco ชักปืนออกมาแต่ถูกพระเจ้า Victor แย่งไว้ได้ทัน และถูกจับมัดไว้ เรื่องจึงเปิดเผยว่าเขาเป็นสายลับของคณะรัฐมนตรี สมาชิกสันนิบาตทุกคนจึงเห็นพ้องกันว่าจะภักดีต่อกษัตริย์ต่อไป Vincenti สมาชิกสันนิบาตเข้ามาบอกว่า Levi ประธานสหภาพแรงงานนำตำรวจมาจับ Coriolo และสมาชิกสันนิบาตคนอื่นๆ ในที่ประชุม ตัวเขาอยู่ใกล้ประตูจึงหนีรอดมาได้ เขาได้ยิน Levi คุยอวดว่าเขาเป็นคนของนายทุนชาวยิว และบอกว่ารัฐบาลกำลังส่งทหารมาจับมาสมาชิกสันนิบาตที่นี่ ซึ่งก็เพราะได้ข้อมูลจาก Sammarco นั่นเอง พระเจ้า Victor ทรงรับหน้าทหารซึ่งถูกส่งมาจับขบถ ทรงปฏิเสธว่าไม่ใช่ที่ซ่อนของขบถ และให้ทหารกลับไป ทำให้ทุกคนปลอดภัย
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory